ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.74 แข็งค่าเล็กน้อย จับตาเงินเฟ้อไทย-ตัวเลขศก.สหรัฐ-ถ้อยแถลงจนท.เฟด

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 5, 2024 09:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 35.74 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากปิดวันก่อนที่ระดับ 35.82 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทแข็งค่าขึ้น จากการย่อตัวลงของเงินดอลลาร์ และการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาทองคำ ที่ทำจุดสูงสุดใหม่ในปีนี้ ส่ง ผลให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยขายทำกำไรทองคำ ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวมีส่วนหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น

วันนี้ตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ เดือนก.พ. และจับตาถ้อย แถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินในระยะถัดไป อีกทั้งรอลุ้นผลการ เลือกตั้งขั้นต้น (Primaries) ในหลายรัฐ หรือ Super Tuesday เพื่อหาตัวแทนพรรครีพับลิกันในการท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ในปีนี้

ส่วนในฝั่งไทย ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) เดือน ก.พ. มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนม.ค. สู่ระดับ - 0.70% (ตลาดคาด -0.80%) หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงานเป็นหลัก

นายพูน มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.70-35.95 บาท/ดอลลาร์

SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 35.84750 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 150.42 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 150.20/22 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0851 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0850/0852 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.814 บาท/ดอลลาร์
  • กระทรวงพาณิชย์ จะรายงานอัตราเงินเฟ้อ (CPI) ของเดือนก.พ.67 ซึ่งต้องรอดูว่าเงินเฟ้อจะยังติดลบต่อเนื่องจาก
เดือนม.ค.ซึ่งอยู่ที่ -1.11% หรือไม่ ขณะที่ตลาดคาดว่าเงินเฟ้อเดือนก.พ. จะอยู่ที่ -0.80%
  • "ทีทีบี" รับภาพรวม "หนี้เสียแบงก์" ขยับ สอดรับทิศทางเดียวหนี้ครัวเรือนไทยพุ่ง ลั่นบริหารจัดการได้ปลายปีไม่เกิน
2.9% พร้อมเดินหน้า ทรานส์ฟอร์มองค์กรใหม่ ลุยลงทุน "ไอที ดิจิทัล" คาดงบระดับ "พันล้าน" หรือ ราว 7% ของรายได้รวม เดินหน้า
เสริมจุดแข็งของธนาคารผ่าน 4 แกน
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (4 มี.ค.)
ขณะที่ในสัปดาห์นี้นักลงทุนจับตาการเปิดเผยงบประมาณของอังกฤษ, การประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB), ข้อมูลการจ้างงานของ
สหรัฐ และเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองในจีนและสหรัฐ
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปรับตัวเพิ่มขึ้นในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ (4 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากคาดการณ์ที่ว่า
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. ประกอบกับแรงซื้อทางเทคนิค
  • บิตคอยน์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะลุระดับ 67,000 ดอลลาร์ หรือมากกว่า 2,400,000 บาท ทำสถิติสูงสุดใน
รอบกว่า 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2564
  • ตลาดจับตาถ้อยแถลงนโยบายการเงินของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อสภาคองเกรสใน
วันพุธและพฤหัสบดีนี้ ซึ่งจะมีขึ้นก่อนการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 19-20 มี.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของ
เฟด
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ในวันศุกร์นี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์
ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 190,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. โดยชะลอตัวจากระดับ 353,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และคาดว่า
อัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.7% ในเดือนก.พ.
  • ตลาดคาดการณ์ในขณะนี้ว่า เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนมิ.ย. โดยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 3-4 ครั้ง
ๆ ละ 0.25% ในปีนี้
  • ทั่วโลกจับตาศึกเลือกตั้ง "ซูเปอร์ทิวส์เดย์" (Super Tuesday) ในวันพรุ่งนี้ (5 มี.ค.) ซึ่งจะบ่งชี้ว่าคู่ชิงในการเลือก
ตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.จะเป็นประธานาธิบดีโจ ไบเดน และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตามที่มีการคาดหมายไว้หรือไม่

ทั้งนี้ สหรัฐจะจัดการเลือกตั้งขั้นต้น (Primary Election) จำนวน 15 รัฐ และ 1 ดินแดนคืออเมริกันซามัวในวันที่ 5 มี. ค. ซึ่งแทบจะชี้ขาดว่าใครจะเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันในการสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีนี้

  • นักลงทุนจะจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งผู้กำหนดนโยบายส่วนใหญ่ระมัดระวังเกี่ยวกับ
การบ่งชี้ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็ว ๆ นี้
  • นักลงทุนจับตาแผนการทางเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน หลังประกาศเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจที่ประมาณ 5% สำหรับ
ปี 2567 ในการประชุมสองสภา ขณะเดียวกันจีนคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อปีนี้จะเพิ่มขึ้นสู่ประมาณ 3%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ