กกพ.เปิดเฮียริ่งค่าไฟงวดพ.ค.-ส.ค. 3 แนวทาง สูงสุด 5.43 บ. ต่ำสุด 4.18 บ.เท่างวดก่อน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 8, 2024 11:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กกพ.เปิดเฮียริ่งค่าไฟงวดพ.ค.-ส.ค. 3 แนวทาง สูงสุด 5.43 บ. ต่ำสุด 4.18 บ.เท่างวดก่อน

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะ กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ. ในการประชุมเมื่อวันที่ 6 มี.ค.2567 มีมติรับทราบภาระต้นทุนการผลิตไฟฟ้า จริงประจำรอบเดือน ก.ย.- ธ.ค. 2566 และเห็นชอบผลการคำนวณประมาณค่าเอฟทีสำหรับงวดเดือน พ.ค. - ส.ค. 2567 พร้อมให้ สำนักงาน กกพ. นำค่าเอฟทีประมาณการและแนวทางการจ่ายภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงของ กฟผ. ไปรับฟังความคิดเห็นใน 3 กรณี ผ่าน ทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ตั้งแต่วันที่ 8-22 มีนาคม 2567 ก่อนที่จะมีการสรุปและประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป

กกพ.เปิดเฮียริ่งค่าไฟงวดพ.ค.-ส.ค. 3 แนวทาง สูงสุด 5.43 บ. ต่ำสุด 4.18 บ.เท่างวดก่อน
  • กรณีที่ 1 (จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้างทั้งหมดในงวดเดียว) แบ่งเป็น ค่าเอฟทีขายปลีกประมาณการที่สะท้อนต้นทุนเดือน พ.
ค. - ส.ค. 2567 จำนวน 19.21 สตางค์ต่อหน่วย และเงินเรียกเก็บเพื่อชำระภาระต้นทุนคงค้าง กฟผ. จำนวน 99,689 ล้านบาท ใน
งวดเดียวหรือ 146.03 สตางค์ต่อหน่วย รวมเป็นค่าเอฟทีเรียกเก็บ 165.24 สตางค์ต่อหน่วยสำหรับเดือน พ.ค. - ส.ค. 2567 เมื่อ
รวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.7833 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บเฉลี่ย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพิ่มขึ้นเป็น 5.4357 บาทต่อหน่วย
  • กรณีที่ 2 (จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้างใน 4 งวด) แบ่งเป็นค่าเอฟทีขายปลีกประมาณการที่สะท้อนต้นทุนเดือน พ.ค. - ส.
ค. 2567 จำนวน 19.21 สตางค์ต่อหน่วย และเงินเรียกเก็บเพื่อชำระภาระต้นทุนคงค้าง กฟผ. จำนวน 99,689 ล้านบาท ภายใน 4
งวดๆ ละ จำนวน 24,922 ล้านบาท หรือ 36.51 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าเอฟทีเรียกเก็บที่ 55.72 สตางค์ต่อหน่วยสำหรับเดือน พ.
ค. - ส.ค. 2567 เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.7833 บาทต่อหน่วยแล้วทำให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บเฉลี่ย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เป็น
4.3405 บาทต่อหน่วย
  • กรณีที่ 3 (ตรึงค่าเอฟทีเท่ากับงวดปัจจุบันตามที่ กฟผ. เสนอ หรือจ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้างประมาณ 7 งวด) แบ่งเป็นค่า
เอฟทีขายปลีกประมาณการที่สะท้อนต้นทุนเดือน พ.ค. - ส.ค. 2567 จำนวน 19.21 สตางค์ต่อหน่วย และเงินเรียกเก็บเพื่อชำระภาระ
ต้นทุนคงค้าง กฟผ. จำนวน 99,689 ล้านบาท ประมาณ 7 งวดๆ ละ จำนวน 14,000 ล้านบาท หรือ 20.51 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่า
เอฟทีเรียกเก็บคงเดิมที่ 39.72 สตางค์ต่อหน่วยสำหรับเดือน พ.ค. - ส.ค. 2567 เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.7833 บาทต่อหน่วย
แล้วทำให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บเฉลี่ย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เป็น 4.1805 บาทต่อหน่วย เท่ากับค่าไฟฟ้าเฉลี่ยในงวดปัจจุบัน

ทั้ง 3 กรณีดังกล่าวข้างต้น ยังไม่รวมเงินภาระคงค้างค่าก๊าซที่เกิดจากนโยบายที่ให้รัฐวิสาหกิจที่นำเข้าก๊าซเรียกเก็บราคาค่า ก๊าซเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2566 คงที่ตามมติ กพช. จึงมีส่วนต่างราคาก๊าซที่เกิดขึ้นจริงและราคาก๊าซที่เรียกเก็บ (AF Gas) โดยภาระดัง กล่าวยังคงค้างที่ ปตท. (เฉพาะในส่วนของการผลิตไฟฟ้าเพื่อขายเข้าระบบ) เป็นจำนวนเงิน 12,076 ล้านบาท และยังคงค้างที่ กฟผ. เป็นจำนวนเงิน 3,800 ล้านบาท ผลการคำนวณประมาณค่าเอฟทีและแนวทางการจ่ายภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงของ กฟผ. ทั้ง 3 กรณีที่กล่าวข้างต้นนั้น เป็นไปตาม การประมาณการต้นทุนเชื้อเพลิงโดย ปตท. และ กฟผ. นำค่าประมาณการดังกล่าวมาคำนวณต้นทุนค่าไฟฟ้า ซึ่งสำนักงาน กกพ. ได้จัดทำ สรุปสมมุติฐานที่ใช้ในการประมาณการค่าเอฟทีรอบคำนวณเดือน ม.ค. - เม.ย. 2567 เทียบกับการคำนวณในปีฐาน พ.ค.-ส.ค. 2558 และรอบประมาณการค่าเอฟทีเดือน พ.ค.- ส.ค. 2567

สมมุติฐาน                หน่วย            พ.ค.-ส.ค.58     ม.ค.-เม.ย.67    พ.ค.-ส.ค..67    เปลี่ยนแปลง
                                        (ค่าไฟฟ้าฐาน)    (ประมาณการ*)     (ประมาณการ)
                                                         มติกกพ./มติ
ครม.                                                 29 พ.ย.66/19 ธ.ค.66
- ราคา Pool Gas       บาท/ล้านบีทียู          264          387/333*         300           -87/-33
อ้างอิงน้ำมันดิบดูไบ        USD/บาร์เรล                 93.3 USD/บาร์เรล  78.9 USD/บาร์เรล   -14.4 USD/บาร์เรล

- ราคาน้ำมันเตา         บาท/ลิตร            15.20           23.09           23.26           +0.17
                                                                                         (+1%)
- ราคาน้ำมันดีเซล        บาท/ลิตร            25.86           26.65           30.43           +3.78
                                                                                        (+14%)
- ราคาลิกไนต์ (กฟผ.)    บาท/ตัน            569.70          820.00          820.00            0
                                                                                         (0%)
- ราคาถ่านหินนำเข้า      บาท/ตัน          2,825.70        4,826.56*        3,705.12        -1,121.44
เฉลี่ย (IPPs)                                                                             (-23%)
สัดส่วนก๊าซธรรมชาติใน Pool Gas            3,682**         3,634            3,749            115(+3%)
- อ่าวไทย             พันล้านบีทียู/วัน      2,514**         1,510            1,484            -26(-2%)
- เมียนมา                                854**           511              483            -28(-5%)
- LNG                                   314**         1,613             1,782           169(+10%)
วิธีการคิด Pool Gas ผลิตไฟฟ้า Gulf/Pool gas  Two Pools  Single Pool       Single Pool         -
การใช้น้ำมันผลิตไฟฟ้า     ล้านลิตร/เดือน      ไม่อยู่ในแผน    ตามความจำเป็น      ตามความจำเป็น        -
ราคา Spot LNG        USD/ล้านบีทียู           -            14.32            10.38           -3.94(-28%)
อัตราแลกเปลี่ยน         บาท/USD           33.05           34.83            35.34           -0.49(-1%)
หมายเหตุ: * ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566
ก๊าซฯ) และปรับตามปริมารการผลิตและนำเข้าก๊าซธรรมชาติของประเทศจริง เพื่อใช้เปรียบเทียบเบื้องต้นเท่านั้น

          นายคมกฤช กล่าวว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้ารอบ พ.ค - ส.ค. 2567 ลดลงมีสาเหตุหลักมาจากต้นทุนราคา
LNG ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องและส่งผลทำให้ราคาประมาณการ Pool Gas ลดลงจาก 333 ล้านบาทต่อล้านบีทียู เป็น 300 ล้านบาทต่อล้านบี
ทียู อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าแหล่งเอราวัณจะมีแผนทยอยปรับเพิ่มปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติจาก 400 เป็น 800 ล้านลูกบากฟุตต่อวันใน
เดือน เม.ย. 2567 แต่ประมาณการปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ได้จากอ่าวไทยเพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้ายังคงอยู่ในระดับเดิมหรือลดลงเล็กน้อย
อีกทั้งก๊าซธรรมชาติจากแหล่งเมียนมาร์ยังมีแนวโน้มที่ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงมีความจำเป็นต้องนำเข้า LNG เพื่อเสริมปริมาณก๊าซ
ธรรมชาติที่ขาดหายและเสริมความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นในปัจจุบันและในช่วงฤดู
ร้อนที่กำลังจะมาถึง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ