
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบผลการรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง และความเห็นของคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเติมเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยเห็นชอบหลักการโครงการดังกล่าวแล้ว ทั้งเรื่องกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้าร่วมโครงการ แนวทางการเข้าร่วมโครงการของประชาชน เงื่อนไขการใช้จ่าย ประเภทสินค้า การลงทะเบียนร้านค้า รวมถึงแหล่งเงิน และการดำเนินโครงการ ซึ่งกระทรวงการคลัง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสำนักงบประมาณ จะศึกษาในรายละเอียดต่อไป
"ส่วนข้อห่วงใย เช่น ประเด็นอำนาจหน้าที่ของ ธ.ก.ส. นั้น ที่ประชุม ครม.เห็นว่าหากมีประเด็นข้อสงสัยใดๆ ให้ส่งเรื่องไปสอบถามยังคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งทุกพรรคร่วมรัฐบาลต่างเห็นชอบในหลักการของโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต" นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลยังยืนยันกำหนดเวลาในกรอบเดิมคือ เริ่มลงทะเบียนในไตรมาส 3/67 และเปิดให้ใช้จ่ายได้ในไตรมาส 4/67 แต่ทั้งนี้ ยังไม่สามารถกำหนดวันที่แน่นอนได้ เนื่องจากต้องขึ้นอยู่กับการพัฒนาระบบ ซึ่งต้องให้เป็นไปอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเสถียรภาพของแอปพลิเคชัน ตลอดจนในเรื่องความมั่นคง ปลอดภัยของข้อมูล
"ทั้งข้อมูลของประชาชน และราชการ ในการทำ transaction ตัวเลขและเงิน ต้องมีความมั่นคงและปลอดภัย ดังนั้น จึงไม่อยากเร่งเกินไป ซึ่งยังยืนยันตามกรอบเดิม คือลงทะเบียนในไตรมาส 3/67 และเปิดใช้ในไตรมาส 4/67" นายจุลพันธ์ กล่าวทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในที่ประชุม ครม.ว่าหากมีข้อสงสัยประเด็นใดก็ตามที่เป็นเรื่องข้อกฎหมาย ให้ดำเนินการส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัย
"เรื่องอำนาจหน้าที่ ธ.ก.ส. เราดูละเอียดแล้วว่าเป็นไปตามกรอบ แต่ถ้าจะให้กระจ่างชัด การส่งไปกฤษฎีกา ก็เป็นสิ่งที่เราพร้อมจะทำตลอดเวลา...ประเด็นใดก็ตาม หากมีประเด็นข้อสงสัยทางกฎหมายมากกว่าประเด็นนั้น เราก็พร้อมจะส่งไป" นายจุลพันธ์ กล่าวส่วนการดำเนินการผ่าน ธ.ก.ส.นั้น เป็นกระบวนการตามมาตรา 28 ของพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง เป็นกระบวนการงบประมาณประเภทหนึ่ง หรือเป็นการดำเนินการตามนโยบายกึ่งการคลัง ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ตามกรอบของมาตรา 28 ประมาณ ต.ค.67
"ดังนั้นระหว่างวันนี้จนถึงต.ค. จะต้องดำเนินการหลายอย่างในรายละเอียดให้ครบถ้วน ในส่วนของคณะกรรมการกำกับ ซึ่งตั้งขึ้นมาแล้ว คงจะมีการประชุมหารือ เพื่อกำหนดรายละเอียดให้ครบ รวมถึงการสอบถามกฤษฎีกาเพื่อให้เกิดความกระจ่าง เราก็พร้อมดำเนินการในช่วงนี้ที่เหลืออีก 4-5 เดือน โดยในวันนี้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการ รายละเอียดไปดำเนินการให้ครบถ้วน" รมช.คลัง กล่าวhttps://youtu.be/_41Teg30PpY