นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 36.23 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อยจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 36.25 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามภูมิภาคและทิศทางตลาดโลก ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 36.17 - 36.31 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดรอปัจจัยใหม่เข้ามา
"วันนี้บาทแกว่งตัวในกรอบกว้างๆ ตามภูมิภาคและตลาดโลก โดยยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 36.10 - 36.35 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดรอดู การประกาศตัวเลข GDP ของไทยในช่วงไตรมาสแรกปี 67 ซึ่งคาดว่าจะเติบโตในระดับ 0.7%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 155.81 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 155.47 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0842 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0861 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,382.68 จุด เพิ่มขึ้น 4.96 จุด, +0.36% มูลค่าซื้อขาย 40,241.23 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 838.77 ล้านบาท
- กระทรวงพาณิชย์ เผยยอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในเดือน เม.ย.67 มีจำนวน 6,530 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกัน
ของปีก่อน 489 ราย หรือ 8.09% ขณะที่มีมูลค่าทุนจดทะเบียน 27,271.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,373.99 ล้านบาท หรือ 30.50%
- บีโอไอ เผยปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์จากจีนที่เริ่มผลิตอีวีในประเทศไทยแล้วมี 3 ราย ได้แก่ GWM, NETA และ MG ส่วน
BYD และ GAC Aion มีแผนเริ่มผลิตในช่วงไตรมาส 3-4 ของปีนี้ และ Changan จะเริ่มผลิตในช่วงต้นปี 2568 ซึ่งจะทำให้ความต้อง
การใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศทยอยเพิ่มสูงขึ้น
- ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ดำเนินกลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch โดยมีเป้าหมายการเป็นดิจิทัลแบงก์ที่เป็น
อันดับหนึ่ง โดยได้นำ AI อนุมัติสินเชื่อรายย่อย 100% ครอบคลุมสินเชื่อเคหะ สินเชื่อเช่าซื้อ และสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย
(SSME) โดยจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าทราบผลอนุมัติภายในระยะที่รวดเร็วกว่าเดิมมาก
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้วิจารณ์การตัดสินใจของคณะบริหารของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ
เพื่อปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนบางรายการ พร้อมเตือนว่าความตึงเครียดทางเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศเสี่ยงจะส่งผลกระทบต่อ
การค้าและการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
- นักลงทุนจากต่างชาติเทขายสุทธิพันธบัตรเอเชียเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนเม.ย. เนื่องจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า
และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้ความต้องการลงทุนในพันธบัตรเอเชียลดลง