ธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นสำรองเพดานสภาพคล่องอีก 0.50% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.เป็นต้นไป ส่งผลให้อัตราสำรองของธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ของจีนสูงขึ้นมาอยู่ที่ 16.5% สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงาน การเพิ่มเพดานสำรองเงินฝากครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 4 แล้วในปีนี้ หลังจากที่ขึ้นเพดานสำรองไป 10 ครั้งเมื่อปีที่แล้ว และการขึ้นเพดานสำรองครั้งหลังสุดมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา แถลงการณ์ของธนาคารกลางระบุว่า การขึ้นเพดานสำรองครั้งล่าสุดนี้มีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการบริหารสินเชื่อ จากการประเมินของสโตน แอนด์ แมคคาร์ที รีเสิร์ช แอสโซซิเอทส์ ระบุว่า ความเคลื่อนไหวในการขึ้นเพดานครั้งนี้จะดูดเงินออกจากระบบการธนาคาร 2.05 แสนล้านหยวน ในวันนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนได้รายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนเม.ย.ว่า ขยายตัวขึ้น 8.5% สูงขึ้นจากระดับเดือนมี.ค. 8.3% เมื่อเดือนมี.ค. แต่ยังต่ำกว่าระดับเดือนก.พ.ที่อยู่ใกล้ระดับสูงในรอบ 12 ปีที่ 8.7% ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่มองว่า รัฐบาลจีนควรจะใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดต่อไป โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า ข้อมูลเงินเฟ้อของจีนในเดือนเม.ย.ชี้ให้เห็นว่า ขณะนี้ยังเร็วเกิดไปที่จะอ้างว่า จีนสามารถควบคุมเงินเฟ้อสำเร็จ เนื่องแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ และถือเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับรัฐบาลที่จะใช้นโยบายคุมเข้มต่อไปเพื่อคุมอัตราเงินเฟ้อ