
ม.ล.ปีกทอง ทองใหญ่ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยผลสำรวจ FTI CEO Poll ครั้งที่ 40 เดือน ก.ค.67 ในหัวข้อ "ทิศทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทยครึ่งปีหลัง" จากความเห็นของผู้บริหาร ส.อ.ท.จำนวน 143 ราย ครอบคลุมผู้บริหารจาก 46 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด
- ภาคอุตสาหกรรมคาดการณ์ GDP ไทยทั้งปี 2567 จะขยายตัวในระดับใด
- มุมมองที่มีต่อภาวะธุรกิจและยอดขายในช่วงครึ่งแรกของปี 67
- ภาคอุตสาหกรรมคาดการณ์แนวโน้มธุรกิจและยอดขายในช่วงครึ่งปีหลัง
- ปัจจัยบวกที่สนับสนุนให้ภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทยในช่วงครึ่งปีหลังดีขึ้น
- ปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทยในช่วงครึ่งปีหลัง
ราคาวัตถุดิบ และค่าขนส่ง
อันดับ 3 สินค้าราคาถูกจากต่างประเทศเข้ามาทุ่มตลาดในประเทศ 38.5%และตลาดเป้าหมายของไทย
อันดับ 4 กำลังซื้อของประชาชนที่ชะลอตัวจากหนี้ครัวเรือนและ NPL ที่อยู่ในระดับสูง 35.7%- มาตรการภาครัฐเพื่อช่วยเหลือและกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง
แทนการปรับค่าแรงขั้นต่ำ
อันดับ 2 ส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศ หรือ Made in Thailand 50.3%ในภาคเอกชนผ่านมาตรการทางภาษี
อันดับ 3 แก้ไขปัญหาหนี้สินของ SMEs และหนี้ครัวเรือนที่มีความเสี่ยงจะเป็นหนี้เสีย 47.6%(NPL)
อันดับ 4 มาตรการอุดหนุนราคาพลังงานเพื่อลดต้นทุนการผลิต 41.3%- แนวทางที่ผู้ประกอบการควรปรับตัวเพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง
และพัฒนาผลิตภัณฑ์/บริการใหม่ๆ
อันดับ 2 นำระบบบริหารจัดการมาช่วยในการลดต้นทุนการผลิต 47.6%เช่น LEAN Manufacturing
อันดับ 3 สร้างเครือข่ายและพันธมิตรเพื่อร่วมกันแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ 47.6% อันดับ 4 ขยายตลาดใหม่หรือทำตลาดในหลายประเทศเพื่อลดความเสี่ยง 45.5%จากการพึ่งพาตลาดเดียว
- ภาครัฐควรเร่งปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในระยะยาว
เพื่อส่งเสริมการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม
อันดับ 2 พัฒนาระบบการศึกษา และส่งเสริมการพัฒนาทักษะแรงงาน 46.9%Upskill & Reskill & Newskill ให้ตอบโจทย์ความต้องการ
ของภาคอุตสาหกรรมในอนาคต
อันดับ 3 ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรมแบบมุ่งเป้าในภาคการผลิต 42.7% อันดับ 4 สนับสนุนการลงทุนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด 26.6%และการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสู่ความยั่งยืน