การเมืองไร้เสถียรภาพ-ศก.ยังไม่ฟื้นเต็มที่บั่นทอนความเชื่อมั่นต่างชาติ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 15, 2008 17:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายดุสิต นนทะนาคร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า นักลงทุนต่างชาติยังกังวลกับปัญหาการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นตัวบั่นทอนความเชื่อมั่นในการลงทุน ประกอบกับราคาน้ำมันสูง และเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ทำให้มีโอกาสที่ต่างชาติจะหันไปเลือกลงทุนในประเทศเวียดนามหรือมาเลเซีย ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของไทยแทน 
ความคิดเห็นดังกล่าวรวบรวมมาจากโครงการของหอการค้าไทยได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สำรวจความคิดเห็นนักลงทุนต่างชาติในไทย 156 ตัวอย่าง เมื่อวันที่ 12-14 พ.ค.51 เกี่ยวกับความเชื่อมั่นที่มีต่อไทย โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ระบุว่าปัญหาด้านการเมืองเป็นปัญหาสำคัญที่สุดของไทยขณะนี้ รวมทั้งราคาน้ำมัน ความไม่เชื่อมั่น และภาวะเศรษฐกิจภายในของไทย
"นักลงทุนส่วนใหญ่ยังมองว่า การเมืองไทยมีปัญหามากสุด และมองว่า เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอยู่ในระดับกลางๆ แต่ในอีก 6 เดือนข้างหน้าคาดว่าจะดีขึ้น แต่ระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการขยายการลงทุนในไทย ส่วนใหญ่จะตอบว่าไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ แต่ความมั่นใจจะมากขึ้นในปีหน้าเมื่อการเมืองดีขึ้น ส่วนในไตรมาส 1 และ 2 ของปีนี้แทบจะไม่ขยายการลงทุนเลย" นายดุสิต กล่าว
ด้าน นายนาเดอร์ จี.วอน เดอร์ เลอเฮ ประธานหอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากประเทศไทยมีรัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้ง นักลงทุนต่างชาติก็มั่นใจที่จะลงทุนในไทยมากขึ้น แต่ขณะนี้การเมืองไทยกลับไม่มีความแน่นอน จึงต้องการให้รัฐบาลไทยมีเสถียรภาพ และมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากกว่า เพื่อที่จะดึงดูดความเชื่อมั่นจากต่างประเทศกลับมาอีกครั้ง
สำหรับมาตรการกระตุ้นการบริโภคภายใน เช่น การลดภาษี การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่(เมกะโปรเจ็กต์) น่าจะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มมากขึ้นได้
"หอต่างประเทศ เชื่อมั่นว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของรัฐบาล จะทำให้เศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง และแข่งขันในระดับสากลได้ ซึ่งรัฐบาลต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ หากเศรษฐกิจไทยเข้มแข็งก็จะดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศได้ แต่รัฐบาลไทยต้องหันหน้าเข้าหากันให้มากขึ้น และเปิดเสรีให้มากขึ้น โดยเฉพาะการเปิดเสรีภาคบริการ ส่วนการแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เห็นว่าจำเป็นต้องแก้ไข แต่ต้องไม่ปิดกั้นการลงทุน" นายนาเดอร์ กล่าว
ขณะที่ นายฟูกูจิโร ยามาเบะ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลไทยควรเร่งดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกในด้านการลงทุนคือ ยกเลิกการแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 และผ่อนปรนเงื่อนไขต่างๆ ในกฎหมายดังกล่าวให้กับนักลงทุนต่างชาติ ดำเนินนโยบายต่างๆ ให้สอดคล้องกับการส่งเสริมการลงทุน บังคับใช้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น(JTEPA) อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ