รมว.คลัง คาด ศก.ไทย Q2/51 โตได้ถึง 6% น้ำมันเป็นปัจจัยเสี่ยงหลัก

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 28, 2008 16:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง คาดว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ของไทยในไตรมาส 2 ปีนี้จะอยู่ที่ 6% ได้ โดยมีราคาน้ำมันเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักในขณะนี้ ส่วนสถานการณ์การเมืองหากไม่บานปลายไปกว่านี้ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากนัก 
รมว.คลัง ยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมากปัญหาราคาน้ำมันยังส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ไม่เต็มที่นัก แต่หลังจากนี้รัฐบาลจะเร่งให้เศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างเต็มที่ตั้งแต่ช่วงกลางปีนี้ โดยคาดว่าในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 หากระดับราคาน้ำมันไม่พุ่งสูงถึง 200 เหรียญ/บาร์เรล ก็ยังเชื่อว่าจะทำให้เศรษฐกิจทั้งปีเติบโตได้เต็มที่ โดยภาครัฐคาดหวังจะผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตในอัตราที่สูงกว่าเงินเฟ้อ จากปัจจุบันที่เงินเฟ้ออยู่ในระดับ 5%
"เป้าหมายของเรา 6% คือเงินเฟ้อมีทิศทางที่จะเฟ้อประมาณ 5% เราก็อยากให้การเติบโตของเรามากกว่าเงินเฟ้อ เรื่องการเติบโตนี้ การสร้างรายได้จึงเป็นเรื่องใหญ่ เราพยายามปรับให้มีคนมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่รายได้ที่เพิ่มขึ้นต้องจากการทำงานหนัก การทำงานเพิ่มขึ้น ถ้ารายได้เพิ่มขึ้น แต่ทำงานเท่าเดิมจะทำให้เงินเฟ้อมากขึ้น เพราะเหมือนกับเป็นการเพิ่มค่าแรง เพิ่มเงินเดือนโดยที่ไม่ต้องทำอะไรมาก แต่ถ้าทุกคนทำงานหนักด้วย แล้วทำล่วงเวลาด้วย แล้วได้เงินเพิ่มขึ้นด้วย ตรงนั้นจะไม่กดดันเงินเฟ้อเลย"นพ.สุรพงษ์ กล่าว
ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ รัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมมีผลให้เกิดการชะงักงันของการลงทุนเกิดขึ้นแล้ว จากที่ก่อนหน้ามีนักลงทุนต่างประเทศเตรียมจะเข้ามาลงทุนในไทย แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นักลงทุนขอชะลอดูเหตุการณ์ก่อน
นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า มีโอกาสชี้แจงกับทูตนานาประเทศให้เข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งทูตต่างประเทศให้ความสนใจการลงทุนในโครงการเมกะโปรเจ็คต์ โดยรัฐบาลยืนยันว่าจะผลักดันให้เป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ ซึ่งนักลงทุนต่างประเทศหรือผู้รับเหมาสามารถขอข้อมูล เพื่อเตรียมเข้ามาประกวดราคาได้
ส่วนเรื่องการเมืองนั้น รัฐบาลไทยได้ชี้แจงว่าเป็นสถานการณ์ปกติของระบอบประชาธิปไตย โดยเชื่อว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ชั่วคราวเท่านั้น และรัฐบาลจะพยายามประคับประคองไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายไปกว่านี้
"รัฐบาลพยายามทำความเข้าใจว่าการชุมนุมเป็นเรื่องปกติของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งหากสถานการณ์ยังอยู่ในระดับนี้ ไม่มีความรุนแรง เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ขณะนี้ผมมองข้ามปัญหาการชุมนุมไปแล้ว ปัญหาสำคัญกระทบเศรษฐกิจคือราคาน้ำมันที่ควบคุมได้ยาก เพราะเกิดจากนักเก็งกำไร"รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ