ซิตี้กรุ๊ปคาดจีนอาจควบคุมราคาเหล็กและซีเมนต์มากขึ้น หวั่นดันเงินเฟ้อ

          ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ เปิดเผยว่า จีนอาจจะคุมเข้มด้านการควบคุมราคาเหล็กและซีเมนต์ โดยการเพิ่มเพดานราคาเหล็กและซีเมนต์ ก็เพื่อจำกัดต้นทุนด้านพลังงานและควบคุมเงินเฟ้อ เนื่องจากจีนอยู่ในระหว่างการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 
          หลาน ซู หัวหน้าฝ่ายวิจัยของซิตี้กรุ๊ป กล่าวว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคจีนจะขยายตัวขึ้น 7.4% ในปีนี้ สูงขึ้นจากระดับคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 5.8% โดยบริษัทเหล็ก อย่าง เป๋าชาน ไอรอน แอนด์ สตีล ได้ขึ้นราคาเหล็กไปถึง 36% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ราคาซีเมนต์ของบริษัทผู้ผลิตต่างๆ ซึ่งมีบริษัทอันฮุย คอนห์ ซีเมนต์ เป็นแกนนำนั้น สูงขึ้นถึง 10% ในปีที่แล้ว
          ซิตี้กรุ๊ประบุว่า อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการวัตถุดิบเพื่อใช้ในการฟื้นฟูความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวที่สูงขึ้น โดยราคาสินค้าที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วของจีนอาจจะส่งผลคุกคามเสถียรภาพในสังคมในขณะที่จีนเตรียมความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในเดือนส.ค.นี้
          ซูกล่าวว่า การรับประกันเรื่องอุปทานถ่านหิน ไฟฟ้า น้ำมันดีเซลและเบนซิน เหล็ก ซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้างอื่นๆที่เพียงพอจะกลายเป็นมาตรการบังคับของทางการจีนมากขึ้นในขณะที่มหกรรมกีฬาโอลิมปิกใกล้จะเปิดฉากขึ้น
          เมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลจีนได้ควบคุมราคาน้ำมันเบนซิน ดีเซล เชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบิน ถ่านหิน และพลังงาน ซึ่งมาตรการควบคุมดังกล่าวช่วยผลักดันราคาหุ้นบริษัท ไชน่า ปิโตรเลียม แอนด์ เคมิคอล คอร์ป ร่วงลงถึง 44% ในปีนี้ ในขณะที่บริษัท ไชน่าฯ ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจกลั่นน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในเอเชียต้องขาดทุนไปประมาณ 3 พันหยวน หรือ 430 ดอลลาร์ต่อน้ำมัน 1 เมตริคตันของผลิตภัณฑ์ที่บริษัทได้ผลิต
          จีนได้รายงานเมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทะยานขึ้นถึง 8.5% ในเดือนเม.ย. เนื่องจากต้นทุนอาหารที่สูงขึ้น โดยราคาผู้ผลิตได้ทะยานขึ้นสู่ระดับที่รวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 3 ปี 
          ซิตี้กรุ๊ปได้ยกระดับคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของจีนในปี 2552 มาอยู่ที่ 5.7% จากระดับที่ได้มีการประเมินก่อนหน้านี้ที่ 3% สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน