สมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ (CBI) เตือนว่า ราคาอาหารและพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของครัวเรือนในอังกฤษ และฉุดการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในปีหน้าสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2535
CBI ได้ปรับลดคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปี 2552 ลงแตะที่ระดับ 1.3% เนื่องจากประชาชนต้องรัดเข็มขัดจากการเผชิญราคาอาหารและพลังงานที่แพงขึ้น โดยก่อนหน้านี้ CBI ก็ได้ปรับลดคาดการณ์ตัวเลขจีดีพีแล้วเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จาก 2.1% เป็น 1.7%
ริชาร์ด แลมเบิร์ท ผู้อำนวยการของ CBI กล่าวว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอังกฤษจะชะลอตัวลงอย่างมากและกินระยะเวลานาน แต่เชื่อว่าจะไม่ถึงขั้นถดถอย
CBI ยังได้คาดการณ์ด้วยว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับสูงสุดถึง 3.8% และจะปรับตัวขึ้น 3% เมื่อมีการเปิดเผยตัวเลขใหม่ในวันอังคาร
CBI กล่าวว่ามีความเป็นไปได้เพียงเล็กน้อยที่รัฐบาลจะกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลก็กำลังเผชิญกับตัวเลขขาดดุลภาครัฐที่สูงเป็นประวัติการณ์อยู่แล้ว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลอดปีที่ผ่านมา CBI ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของอังกฤษมาอย่างต่อเนื่อง
"เหตุผลหลักก็คือ การที่ราคาน้ำมันซึ่งคิดคำนวณด้วยเงินปอนด์ที่อ่อนค่า ยังคงปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง หรือประมาณสองเท่านับตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้ว" แลมเบิร์ทกล่าว พร้อมกับเสริมว่า ปัจจัยดังกล่าวได้บีบรัดรายได้ของครัวเรือนและผลกำไรของบริษัทเอกชน อีกทั้งยังทำให้เป็นเรื่องยากขึ้นที่ธนาคารกลางอังกฤษจะตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อป้องกันเศรษฐกิจชะลอตัว
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์:
[email protected]