ซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยว่า อุตสาหกรรมสายการบินของจีนมีแนวโน้มว่าจะทำกำไรได้น้อยในปีนี้ หลังจากที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องในขณะที่จำนวนผู้โดยสารกลับลดลง
"เราเชื่อว่าธุรกิจสายการบินจีนจะได้รับความสูญเสียอย่างหนักในเดือนพ.ค. และในปีนี้อาจแทบจะทำกำไรไม่ได้เลย" อัลลี่ หม่า นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ป กล่าว "พิจารณาจากจำนวนผู้โดยสารในประเทศที่ลดลง ยอดจองตั๋วโอลิมปิกที่น้อยเกินคาด และการเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างจีนและไต้หวันซึ่งไม่สามารถทำกำไรได้เท่าที่ควร"
นอกจากนั้น เหตุการณ์ความไม่สงบในทิเบต รวมถึงภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวน และเหตุก่อการร้าย ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม นางหม่ากล่าวว่า การที่ผู้บริโภคในจีนประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น รวมถึงการเดินทางในประเทศที่ลดลง เป็นปัญหาที่สำคัญกว่า
จำนวนผู้โดยสารในประเทศจีนลดลงกว่า 14% ในเดือนพ.ค. ในขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวรายวันซึ่งเดินทางเยือน 120 จุดหมายตามที่กระทรวงท่องเที่ยวทำการสำรวจร่วงลงกว่า 24% โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะเดือนดังกล่าวมีวันหยุดราชการน้อย
ในขณะที่เหตุแผ่นดินไหวในมณฑลเสฉวนก็สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับธุรกิจสายการบิน โดยสายการบินแอร์ ไชน่า ได้รับความเสียหายมากที่สุดเนื่องจากมีสำนักงานใหญ่แห่งที่สามอยู่ในเฉิงตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน
ด้านการเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างจีนและไต้หวันก็ไม่สามารถทำกำไรได้ในระยะเวลาสั้นๆ
ทั้งนี้ ซิตี้กรุ๊ป จัดอันดับความน่าลงทุนของสายการบินแอร์ ไชน่า และ ไชน่า เซาท์เธิร์น ไว้ที่ "sell" ในขณะที่ไชน่า อีสเทิร์น อยู่ที่ระดับ "hold" สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์:
[email protected]