บรรดานักวิเคราะห์ต่างแสดงทัศนะออกมาในทิศทางเดียวกันว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอาจเป็นตัวกระตุ้นให้ตัวเลขเงินเฟ้อของสิงคโปร์ในเดือนมิ.ย. พุ่งทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี ขณะที่ราคาผู้บริโภคอาจพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุด ก่อนที่จะชะลอตัวลงมาในครึ่งหลังของปีนี้เมื่อผลกระทบของการปรับขึ้นภาษีสินค้าและบริการเริ่มซาลง นักวิเคราะห์จากโพลล์ของธอมสัน ไอเอฟอาร์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ของสิงคโปร์ประจำเดือนมิ.ย.อาจขยายตัวขึ้นในอัตราเฉลี่ยที่ 8.0% จากระดับในปีก่อนหน้านี้ ซึ่งตัวเลขคาดการณ์เดือนมิ.ย.ขยายตัวเร็วขึ้นกว่าระดับ 7.5% ในเดือนพ.ค. ทั้งนี้ สำนักงานสถิติจะรายงานดัชนี CPI ในวันพุธที่ 23 กรกฎาคม 2551 เซเลนา หลิง นักวิเคราะห์จาก Oversea-Chinese Banking Corp เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันยังคงพุ่งสูงขึ้นโดยในระหว่างเดือนมิ.ย.น้ำมันทะยานฝ่าระดับ 140 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นอกจากนี้ การที่มาเลเซียตัดสินใจขึ้นราคาเชื้อเพลิง 40% เมื่อต้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาอาจกระตุ้นให้ราคานำเข้าอาหารในสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ด้านนักวิเคราะห์จาก United Overseas Bank กล่าวว่า "ราคาสินค้าในภาคอุตสาหกรรมการขนส่งอาจไต่ระดับสูงขึ้นเนื่องจากผู้ประกอบการรถโดยสารเอกชนปรับขึ้นค่าโดยสารตามต้นทุนเชื้อเพลิง อย่างไรก็ตาม อัตราเงินคืนภาษีค่าธรรมเนียมบริการงวดเดือนมิ.ย.อาจช่วยควบคุมราคาในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ได้" ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขเงินเฟ้ออาจปรับตัวลดลงในช่วงเดือนก.ค.เป็นต้นไป หลังจากผลกระทบของการปรับอัตราภาษีสินค้าและบริการ (GST) ที่เพิ่มขึ้น 2% ได้เจือจางลงแล้ว ซึ่งการขึ้นภาษีดังกล่าวเป็นเหตุให้ราคาผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2550