ฝ่ายค้านเล็งฟ้องศาลปกครอง ยับยั้งการตั้งบอร์ดธปท.ในสัปดาห์หน้า

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday August 2, 2008 16:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคฝ่ายค้าน กล่าวว่า พรรคตัดสินใจที่จะยื่นฟ้องกรณีแต่งตั้งประธานและคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) หรือบอร์ดธปท. ต่อศาลปกครอง เพื่อยับยั้งการตั้งบอร์ดธปท.โดยมิชอบ หลังเมื่อดูสถานะของธปท.พบว่า ทางคณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุว่า ธปท.ตกอยู่ภายใต้กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ซึ่งพรรคได้หารือกับฝ่ายกฎหมาย 
เพราะเมื่อคณะกรรมการสรรหาแต่งตั้งโดยรมว.คลัง ขัดต่อกฎหมายย่อมทำให้การเลือกบอร์ดธปท.มีผลเสียหายไปด้วย เนื่องจากบอร์ดธปท.จะมีอำนาจในการแต่งตั้ง คณะกรรมการนโยบายการเงิน คณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน และคณะกรรมการระบบการชำระเงิน ซึ่งจะมีผลต่อผลประโยชน์ได้เสีย และกระทบต่อผู้ฝากและผู้กู้เงิน โดยเรื่องเหล่านี้อยู่ในขอบเขตของอำนาจของศาลปกครองสามารถพิจารณาได้
และเมื่อดูข้อกฎหมายแล้วผู้ที่ฟ้องคดีได้ ต้องเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนและได้รับความเสียหายจากการกระทำ หรือจากการงดเว้นการกระทำของหน่วยงานปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งในกรณีนี้ชัดเจน
"จากการหารือกับทางหัวหน้าคณะกฎหมายของพรรค เห็นควรว่าจะฟ้องศาลปกครองในวินิจฉัยเรื่องนี้ โดยจะทำร่างคำฟ้องให้แล้วเสร็จ และคาดสามารถยื่นฟ้องได้ภายในสัปดาห์หน้า " นายสาทิตย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ารมว.คลังพยายามแทรกแซงหน่วยงานที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงการคลัง ทั้งธปท.และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) เนื่องจากทั้ง 2 หน่วยงานมีส่วนสำคัญในคดีของอดีตนายกรัฐมนตรีอย่างน้อย 2 คดี คือ คดีที่ดินรัชดาฯและคดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้ประเทศพม่า ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลระงับการส่งชื่อบอร์ดธปท.เพื่อทูลเกล้าฯ เพราะพรรคจะยื่นฟ้องศาลปกครอง ซึ่งหากพบว่าหากมีความผิด และหากโปรดเกล้าฯแต่งตั้งไปแล้ว ก็จะมีปัญหาถูกถอด และอาจต้องทูลเกล้าฯใหม่
ทั้งนี้ มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่งตั้งบอร์ดธปท. พรรคได้เห็นว่าอาจจะหมิ่นเหม่ขัดต่อกฎหมาย เนื่องจากคณะกรรมการสรรหาอาจขัดต่อกฎหมายมาตรา 28/1 ของพ.ร.บ.ธปท. ปี 2551 และบอร์ดธปท.น่าจะมีคุณสมบัติที่ไม่เหมาะสม
เนื่องจาก ฝ่ายค้านได้ตรวจสอบพบว่ามีคณะกรรมการสรรหาบอร์ดธปท.จำนวน 3 คน ประกอบด้วยนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ที่ยังนั่งเป็นประธานกรรมการธนาคารทหารไทย 2.นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ปัจจุบันเป็นประธานกรรมการธนาคารกรุงไทย และ3.นายนายวิจิตร สุพินิจ ที่ปัจจุบันยังเป็นประธานกรรมการตรวจสอบธนาคารทหารไทย อาจเข้าข่ายขัดต่อกฎหมายมาตรา 28/1 ว่าด้วยคณะกรรมการคัดเลือกจะต้องไม่มีส่วนได้เสียในการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากทั้ง 3 คน ยังอยู่ดำรงตำแหน่งในธนาคารพาณิชย์
"ถ้าใช้หลักการเทียบกฎหมายธปท. ของบอร์ดธปท.ที่ระบุไว้ในมาตรา 18 ว่า บุคคลซึ่งดำรงตำแหน่งใดในสถาบันการเงิน ถือเป็นคุณสมบัติต้องห้าม เป็นกรรมการหรือผู้บริหารที่มีอำนาจในการจัดการ หรือมีส่วนได้เสียอย่างมีนัยยะสำคัญ มีนิติบุคคล ซึ่งมีประโยชน์ได้เสียเกี่ยวข้องกับธปท.ก็เป็นคุณสมบัติต้องห้าม ซึ่งตรงกับนายนิพัทธ พุกกะณะสุต 1 ในคณะกรรมการสรรหา ที่ขณะนี้ก็ยังเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอยู่ เพียงแต่ไม่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ดังนั้น การสรรหาบอร์ดธปท.โดยคณะกรรมการสรรหาชุดนี้ที่อาจขัดต่อกฎหมายธปท.ด้วย" นายสาทิตย์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ