องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยว่า ในปีนี้ พม่า ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก จะขาดแคลนผลผลิตประมาณ 1 ใน 3 ของผลผลิตอาหารโดยปกติ จากเหตุพายุไซโคลนนาร์กิสที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งได้สร้างความเสียหายบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิรวดี ยูเอ็นระบุในแถลงการณ์วานนี้ว่า พม่าจำเป็นต้องมีผลผลิตเพื่อรองรับความต้องการของประชาชนราว 924,000 คนภายใน 9 เดือนข้างหน้า แต่พื้นที่เพาะปลูกข้าวยังขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ในสต็อกราว 85% ชาร์ท ออฟ เดอะ เดย์ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการชาร์ตข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนและเศรษฐกิจทั่วโลก ได้เปรียบเทียบความเท่าเทียมกันด้านกำลังซื้อในพม่ากับประเทศจีน อินเดีย และประเทศไทย ตั้งแต่ปีพ.ศ.2523 จนถึงข้อมูลปัจจุบันที่ธนาคารโลกได้จัดทำไว้ และจากการประเมินของสำนักข่าวกรองของสหรัฐฯ หรือ CIA ในปี 2550 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานการเปิดเผยของธนาคารโลกที่ระบุว่า ในปี 2548 ชาวพม่ามีกำลังซื้ออยู่ที่ 838 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน ขณะที่ CIA การประเมินกำลังซื้อของพม่าอยู่ที่ 1,900 ดอลลาร์ต่อคน ในปี 2550