สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 10 เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเช้าวันนี้ (14 ส.ค.) โดยนักลงทุนได้เทขายสกุลเงินยูโรและสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในภาวะขาลง อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนเนื่องจากเทรดเดอร์ของญี่ปุ่นลดการถือครองสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์นิวซีแลนด์ หลังจากที่สกุลเงินทั้งสองดิ่งร่วงลงอย่างหนักเมื่อช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ถึงกระนั้นเงินดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญ ทั้งนี้ เงินดอลลาร์ขยับลงเล็กน้อยเพียง 0.1% จากระดับปิดที่ 109.39 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ โดยเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนที่ 110.40 เยนต่อดอลลาร์เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ด้านเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.2% แตะระดับ 1.4901 ดอลลาร์ต่อยูโร หลังจากที่เงินยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนที่ 1.4815 ดอลลาร์ต่อยูโรในสัปดาห์นี้ ส่วนเงินปอนด์สเตอริงย่ำฐานทรงตัวอยู่ที่ระดับ 1.8061 ดอลลาร์ต่อปอนด์ นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางในหลายประเทศจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อบรรเทาความเสียหายจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ขณะที่มีกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจตรึงอัตราดอกเบี้ยหลังจากที่ผ่านพ้นช่วงที่ปรับลดดอกเบี้ยมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ธนาคารกลางอังกฤษยังได้ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจรายไตรมาสที่ซบเซาในรายงานภาวะเงินเฟ้อเมื่อวานนี้ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวยิ่งเป็นการเปิดทางให้ธนาคารกลางปรับลดดอกเบี้ยลงและส่งผลให้เงินปอนด์สเตอริงดิ่งร่วงลงรุนแรงที่สุดในรอบ 8 เดือน