"เมอร์ริล ลินช์"ประกาศระงับจ้างงานใหม่จนถึงปลายปีนี้ หลังขาดทุนติดต่อกัน 4 ไตรมาส

ข่าวต่างประเทศ Friday August 15, 2008 10:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          เมอร์ริล ลินช์ วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐ ประกาศระงับการจ้างงานใหม่จนถึงช่วงปลายปีนี้ หลังจากบริษัทขาดทุนติดต่อกันถึง 4 ไตรมาส คิดเป็นวงเงินรวม 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์
เจสสิกา อ็อพเพนเฮม โฆษกหญิงของเมอร์ริล ลินช์ กล่าวว่า "เมอร์ริล ลินช์ ขอระงับการจ้างงานใหม่เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน แต่การระงับจ้างงานครั้งนี้ไม่รวมถึงโบรกเกอร์ซึ่งมีอยู่ประมาณ 16,690 คน จากพนักงานทั้งหมดจำนวน 60,000 คนทั่วโลก นอกจากนี้ การระงับจ้างงานใหม่ยังไม่รวมถึงคณะกรรมการบริหาร ซึ่งการดำเนินงานครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะกระตุ้นความสามารถในการทำกำไร"
ด้านนายจอห์น เธน ซีอีโอเมอร์ริล ลินช์ พยายามทุกวิถีทางที่จะลดการใช้จ่ายหลังจากบริษัทขาดทุนในตลาดซับไพรม์และปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชี นอกจากนี้ เมอร์ริล ลินช์ ยังลดงบประมาณการจ่ายเงินชดเชยลง 20% ในปีนี้ เหลือเพียง 7.7 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ วิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อส่งผลให้วาณิชยธนกิจและธนาคารรายใหญ่ของโลกบอกเลิกจ้างพนักงานรวมกันราว 100,000 คนนับตั้งแต่ปีที่แล้ว
ริชาร์ด โบฟ นักวิเคราะห์จากบริษัทลาเดนเบิร์ก ธาลมานน์ ในนิวยอร์ก ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการของวาณิชธนกิจเมอร์ริล ลินช์ สำหรับปี 2551 ไปจนถึงปี 2553 โดยกล่าวว่า เมอร์ริล ลินช์อาจประสบความยากลำบากในการทำกำไรในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้ นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นเมอร์ริล ลินช์ ลงสู่ระดับ 25 ดอลลาร์ จากระดับ 30 ดอลลาร์
"เมอร์ริล ลินช์ ระดมทุนหลายพันล้านดอลลาร์เมื่อไม่นานมานี้ ผ่านการออกหุ้นใหม่ๆ ซึ่งทำให้เกิดข้อกังขาถึงความสามารถในการทำกำไรของบริษัท เป็นเรื่องยากที่จะตอบได้ว่าเมอร์ริล ลินช์จะกลับมาทำกำไรได้เมื่อใด เพราะรายได้หลักของบริษัทไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนแต่ก่อนแล้ว" โบฟกล่าว
การแสดงความคิดเห็นของนักวิเคราะห์จากเดนเบิร์ก ธาลมานน์ มีขึ้นหลังจากนายจอห์น เธน ซีอีโอของเมอร์ริล ลินช์ ได้ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า เมอร์ริล ลินช์ จะสามารถกลับมาทำกำไรได้อีกครั้งในเร็วๆนี้ หลังจากบริษัทขาดทุนราว 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 4 ไตรมาสที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา เมอร์ริล ลินช์ ประกาศว่า บริษัทจะขายสินทรัพย์บางส่วนที่มีประสิทธิภาพในการทำกำไรต่ำ และจะออกหุ้นใหม่เพื่อระดมทุนราว 8.5 พันล้านดอลลาร์ พร้อมกล่าวว่า บริษัทอาจต้องปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีลง 5.7 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากขาดทุนในตลาดปล่อยกู้จำนองและผลกระทบที่เกิดจากวิกฤตการณ์สินเชื่อ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ