ยอดขาดดุลการค้าของกลุ่มประเทศในยุโรปประจำเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี เนื่องจากเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะชะลอตัว ขณะที่ภาวะเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวด้านการส่งออก สำนักงานสถิติของสหภาพยุโรปเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าของยุโรปขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2549 แตะระดับ 3 พันล้านยูโร (4.4 พันล้านดอลลาร์) เมื่อเทียบกับ 1 พันล้านยูโรในเดือนพ.ค. เนื่องจากยุโรปมียอดนำเข้าเพิ่มขึ้นสองเท่า ทั้งนี้ ยุโรปมียอดส่งออกไปสหรัฐลดลงในปีนี้เนื่องจากเศรษฐกิจในสหรัฐชะลอตัว ขณะเดียวกันภาวะเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 9% เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ได้บั่นทอนขีดความสามารถการแข่งขันด้านการส่งออก ขณะที่อุปสงค์ที่ซบเซาในสหรัฐกีดขวางการขยายตัวทางเศรษฐกิจในยุโรป "อุปสงค์จากสหรัฐอ่อนแอมาก ขณะที่ความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว ซึ่งภาวะดังกล่าวล้วนส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในเขตยูโรโซน" โดมินิก ไบรแอนท์ นักวิเคราะห์จากบีเอ็นพี พาริบาส์ในลอนดอนกล่าว โดยในช่วงเดือนม.ค.-พ.ค. ยุโรปมียอดส่งออกลดลง 4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่ยอดส่งออกไปสหราชอาณาจักรกระเตื้องขึ้น 2% สำหรับการส่งออกไปประเทศจีนถีบตัวขึ้น 15% ขณะที่การส่งออกไปรัสเซียขยายตัว 22% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยข้อมูลการนำเข้า-ส่งออกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจากจีนระบุว่า จีนมียอดนำเข้าสินค้าพุ่งขึ้น 34% ในเดือนก.ค.จากปีที่แล้ว