น.ส.กิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาตร์ ธนาคารโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ในประเทศซึ่งเกิดความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้ ยังไม่น่าจะกระทบกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมมากนัก เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังมีความแข็งแกร่ง และคาดว่าปัญหาการเมืองจะเป็นเรื่องระยะสั้น ทั้งนี้ โดยปกติแล้วในการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศจะให้ความสำคัญที่ตัวนโยบายของแต่ละประเทศ ซึ่งหากนโยบายด้านการเมืองและเศรษฐกิจไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ก็คงไม่มีผลมากนัก ด้านนายปรเมธี วิมลศิริ ที่ปรึกษาและผู้ช่วยเลขานุการ คณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ที่ปรึกษาคุณวุฒืด้านเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีจะเลื่อนประชุมเป็นสัปดาห์หน้า เพื่อประเมินผลกระทบด้านเศรษฐกิจที่เกิดจากภาวะการเมืองและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ ซึ่งยอมรับว่าฝ่ายเศรษฐกิจของรัฐบาลคงจะต้องทำงานหนักขึ้น โดยในเบื้องต้นจะมีการหยิบยกข้อเสนอ 7 ข้อที่เคยประกาศไปในการประชุมครั้งก่อนมาดูว่าเพียงพอต่อการดูแลเศรษฐกิจในขณะนี้หรือไม่ หากไม่เพียงพอก็อาจจะมีการออกมาเพิ่มเติม โดยเฉพาะเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างแรก