เทรดเดอร์ในตลาดปริวรรตเงินตราเริ่มมองว่าความเคลื่อนไหวของนายอลิสแตร์ ดาร์ลิ่ง รัฐมนตรีคลังอังกฤษที่ออกมายอมรับว่า เศรษฐกิจอาจเผชิญภาวะชะลอตัวหนักสุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น เป็นต้นเหตุที่ทำให้เงินเงินปอนด์อ่อนค่าลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 2535
คอนเซปส์ อิงค์ บริษัทเฮดจ์ ฟันด์ในตลาดเงินรายใหญ่ที่สุดของโลกระบุว่า เงินปอนด์ของอังกฤษแข็งค่าขึ้นประมาณ 20% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าในปีนี้เงินปอนด์จะร่วงลงไปกว่า 10% ขณะที่เทรดเดอร์ในตลาดล่วงหน้าเริ่มมีมุมมองในแง่ลบต่อสกุลเงินของอังกฤษว่าจะยิ่งซบเซากว่าเมื่อช่วง 16 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ วิกฤตการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ตกต่ำลงหนักที่สุดในรอบ 18 ปีทำให้นายอลิสแตร์ ดาร์ลิ่ง รัฐมนตรีคลังอังกฤษกล่าวว่าชาวอังกฤษจะต้องเผชิญภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางอังกฤษได้ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับเดิมเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันเพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งแตะระดับ 4.4% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่อยู่เหนือระดับตั้งเป้าไว้ถึง 2 เท่า
"นักลงทุนอาจประเมินค่าเงินปอนด์สูงกว่าเงินดอลลาร์มากเกินไป" จอห์น เทย์เลอร์ นักวิเคราะห์จากคอนเซปส์ในนครนิวยอร์กกล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง 11% ในปีนี้ได้สร้างความประหลาดใจให้กับบรรดานักลงทุน และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินปอนด์เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 1.7661 ดอลลาร์ต่อปอนด์ ซึ่งอยู่ต่ำกว่าผลสำรวจความคิดเห็นของบริษัทต่างๆที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.85 ดอลลาร์ต่อปอนด์
อย่างไรก็ตาม ณ เวลา 07.45 น. ในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงลอนดอน เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ 1.7830 ดอลลาร์ต่อปอนด์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--