นักวิเคราะห์คาดยอดขาดดุลการค้าสหรัฐเดือนก.ค.ดีดขึ้นแตะ $5.8 หมื่นล้าน หลังราคาน้ำมันพุ่ง

          นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการค้าสหรัฐในเดือนก.ค.จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 5.8 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 5.68 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 
          อัลเลน ซีนาย นักวิเคราะห์จาก Decision Economics Inc. กล่าวว่า ยอดส่งออกที่พุ่งสูงขึ้น อันเป็นผลมาจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงซึ่งช่วยให้สินค้าสหรัฐมีราคาถูกลงสำหรับกลุ่มผู้ซื้อต่างชาติ ได้ช่วยป้องกันยอดขาดดุลการค้าสหรัฐไว้ไม่ให้พุ่งขึ้นรุนแรงเกินไป อย่างไรก็ตาม คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังไม่ฟื้นตัวขึ้นในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้ เนื่องจากเศรษฐกิจยุโรปและญี่ปุ่นชะลอตัวลง และค่าเงินดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้น
          กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดขาดดุลการค้าในคืนนี้ (ตามเวลาประเทศไทย)
          นักวิเคราะห์คาดว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยราคาน้ำเข้าสินค้า ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นว่าราคาน้ำมันจะส่งผลกระทบต่อตัวเลขดุลการค้าในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้ โดยคาดว่าต้นทุนนำเข้าสินค้าที่ผลิตในต่างประเทศจะลดลง 1.8% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี
          นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานรายสัปดาห์ โดยนักวิเคราะห์โพลล์บลูมเบิร์กคาดว่า ตัวเลขดังกล่าวจะลดลงแตะระดับ 440,000 คน จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ 444,000 คน ซึ่งสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐกำลังถดถอย