สมิธ ทราเวล รีเสิร์ช (STR) บริษัทวิจัยด้านการตลาดเปิดเผยว่า จำนวนผู้เข้าพักตามโรงแรมในสหรัฐร่วงลง 7.3% ต่อปี ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนก.ย.ไปอยู่ที่ระดับ 54.3% ขณะที่อัตราการขยายตัวเฉลี่ยต่อวันที่ระดับ 1.2%
จากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้โรงแรมในสหรัฐมีรายได้เฉลี่ยต่อห้องลดลง 6.2% แตะที่ 54.70 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตัวเลขรายได้ต่อห้อง (revpar) เป็นข้อมูลสำคัญที่นำมาพิจารณาความเคลื่อนไหวในธุรกิจโรงแรม
"ในสัปดาห์แรกของเดือนกันยายนมักเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับธุรกิจโรงแรมในสหรัฐ" บ็อบบี บาวเวอร์ รองประธานอาวุโสด้านการดำเนินธุรกิจของ STR กล่าว "พายุเฮอริเคนเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อตลาดการท่องเที่ยวในชายฝั่งตะวันออกบางแห่ง"
รายงานของ STR ระบุว่า ภาพรวมด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวประสบภาวะซบเซาตลอดทั้งสัปดาห์ ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อห้องพุ่งสูงสุด 11.1% เมื่อวันจันทร์แต่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดถึง 14.8% เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
Joshua Attie นักวิเคราะห์จาก Citi Investment Research กล่าวว่า ข้อมูลที่ออกมาน่าผิดหวังซึ่งเมื่อพิจารณาจากข้อมูลของนักท่องเที่ยวที่ซบเซาตามพักในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็สามารถบอกได้ว่าธุรกิจท่องเที่ยวจะยังคงอ่อนแอ
ทั้งนี้ ผู้บริโภคชาวสหรัฐได้ปรับลดเงินค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวลง ขณะที่ราคาอาหารและก๊าซที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่องบประมาณการใช้จ่ายของพวกเขา นอกจากนี้ สายการบินต่างๆยังได้ปรับขึ้นธรรมเนียมโดยสารและลดการให้บริการลง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์:
[email protected]