(เพิ่มเติม) รมว.พาณิชย์ คาดส่งออกปี 51 อาจโตได้เกินกว่า 25%

          นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ คาดว่า การส่งออกของไทยในปีนี้มีความเป็นไปได้ที่จะเติบโตได้เกินกว่า 25% เพราะหากพิจารณาจากการส่งออกเฉลี่ยช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา(ม.ค.-ก.ค.51)เติบโตได้ถึง 26.1% ประกอบกับได้รับทราบข้อมูลจากทูตพาณิชย์ทั้ง 57 ประเทศทั่วโลกทำให้เห็นว่าการส่งออกในหลายตลาดจะยังสามารถขยายตัวได้ดี
          ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายการส่งออกปี 51 ไว้ที่ 12.5% และล่าสุดได้ปรับเป้าหมายใหม่ให้เพิ่มขึ้นเป็น 15-20%
          นายไชยา กล่าวว่า ในการประชุมหัวหน้าสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(ทูตพาณิชย์)ทั่วโลกได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์เร่งผลักดันการส่งออก เพื่อให้การส่งออกสินค้าไทยในช่วงสุดท้ายของปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 
          สำหรับนโยบายในการทำงานนั้น ได้ขอให้ทูตพาณิชย์ศึกษาและสำรวจความต้องการของแต่ละตลาดว่ามีความต้องการสินค้าใดบ้าง และสินค้าไทยรายการใดมีโอกาสที่จะเข้าสู่ตลาดนั้นๆ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร เช่น ข้าว และ ผลไม้ ที่ต้องการให้ผลักดันเป็นพิเศษ เพราะไทยมีความได้เปรียบมากกว่าประเทศคู่แข่งอื่น รวมถึงช่วยภาคธุรกิจในการบุกตลาดด้วยการทำรายละเอียดการเข้าสู่ตลาดทั้งการค้าและการลงทุน
          รมว.พาณิชย์ ยังขอให้ทูตพาณิชย์ช่วยทำความเข้าใจกับนักลงทุนต่างชาติและผู้นำเข้าสินค้าไทยว่า ขณะนี้ไทยได้ยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว และเร็วๆ นี้จะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ต่างๆ เข้าสู่ภาวะปกติได้
          นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า ได้ประเมินเป้าหมายการส่งออกสินค้าไทยในปี 52 แล้ว โดยเบื้องต้นคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งตลาดหลักและตลาดใหม่ แต่ยังไม่สามารถประกาศอย่างเป็นทางการได้ เพราะต้องนำตัวเลขเบื้องต้นมาหารือกับผู้ส่งออกก่อน คาดจะสามารถประกาศเป้าหมายทางการได้ราวปลายปีนี้ 
          นายมาร์ค พี.มุนต์ ผู้แทนการค้ากิตติมศักดิ์ไทยประจำสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ความวุ่นวายทางการเมืองของไทยไม่กระทบต่อการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ แต่อย่างใด ส่วนนักท่องเที่ยวยอมรับว่าวิตกกังวลบ้างแต่ยังคงมาเที่ยวไทยตามปกติ ส่วนเรื่องการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นั้นก็ช่วยทำให้ความวิตกกังวลหมดไป 
          สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงขณะนี้ ทำให้สินค้าบางอย่างของไทยที่ส่งออกไปสหรัฐฯ ชะลอตัว โดยเฉพาะสินค้าระดับบน เช่น เสื้อผ้า แต่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐน่าจะฟื้นตัวเร็วๆ นี้ ส่วนสินค้าไทยที่มีศักยภาพมาก คือ อาหาร