จีนฉาวอีก หลังพบสารเคมีในนมและโยเกิร์ตของบ.ผลิตนมรายใหญ่สุดของประเทศ

          จีนตรวจพบสารเมลามีนที่เป็นพิษในผลิตภัณฑ์น้ำนมและโยเกิร์ตของผู้ผลิตนมรายใหญ่สุดของประเทศ ถือเป็นสถานการณ์ที่ยิ่งกระพือความอื้อฉาวในอุตสาหกรรมนมของประเทศ หลังจากที่มีการตรวจพบสารเมลามีนในนมผงเด็กทารกซึ่งทำให้เด็กทารกในจีนเสียชีวิตไปแล้วถึง 4 ราย และป่วยอีกกว่า 6,000 ราย
          ผลิตภัณฑ์นมและโยเกิร์ตของบริษัท ไชน่า เหมิงหนิว แดรี่, บริษัท อินเนอร์ มองโกเลีย หยีลี่ อินดัสเทรียล กรุ๊ป และไบรท์ แดรี่ แอนด์ ฟูด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมชั้นนำ 3 รายของประเทศในแง่ของมูลค่านั้น มีสารเมลามีนปนเปื้อน 
          บลูมเบิร์กรายงานว่า การตรวจพบสารเมลามีน ซึ่งใช้ผลิตพลาสติคและทำสีให้แผ่นหนังนั้น ทำให้เกิดคำถามมากขึ้นว่า ผู้บริโภคในจีนจำนวนมากเพียงใดที่รับสารเคมีที่มีส่วนทำให้เกิดโรคนิ่วในไตในทารกเข้าไปในร่างกาย โดยสตาร์บัคส์ บริษัทกาแฟยักษ์ใหญ่ของโลกประกาศหยุดใช้นมของบริษัทเหมิงหนิวเรียบร้อยแล้ว
          หลี่ ซุย มารดาวัย 32 ปีที่พาลูกชายวัย 4 ขวบไปตรวจสุขภาพเพราะลูกชายของเธอดื่มนมของเหมิงหนิวและหยี่ลี่ กล่าวว่า ครอบครัวของเราไม่ดื่มนมแล้วตอนนี้ ตอนนี้เราไม่สามารถเชื่อใจนมยี่ห้อใดได้อีกต่อไปแล้ว 
          สำนักงานตรวจสอบคุณภาพและกักกันของจีนได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังบริษัทนม 1,548 แห่ง เพื่อตรวจสอบหาสารเมลามีนในผลิตภัณฑ์ ในขณะที่บริษัท เหมิงหนิว หยี่ลี่ และไบรท์ แดรี่ ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษผู้บริโภคแล้ว และให้สัญญาว่าจะเพิ่มมาตรการรับประกันคุณภาพสินค้า
          ยูบีเอส เอจี และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ระบุว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดิ่งลง และต้นทุนในการรับประกันคุณภาพสินค้าก็ปรับตัวสูงขึ้นเพราะเหตุนมปนเปื้อนครั้งนี้ มีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทนมจีน ในขณะที่ต้นทุนที่ทะยานขึ้นและการควบคุมราคาขายของรัฐบาลก็เป็นปัจจัยที่ดึงตัวเลขกำไรลงอยู่แล้ว