ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ปอนด์ และฟรังค์สวิส ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ก.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างหนัก และหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) มีมุมมองที่เป็นบวกต่อแผนการช่วยเหลือสถาบันการเงินของสหรัฐ แม้แผนการดังกล่าวยังไม่ผ่านการอนุมัตจากสภาคองเกรสก็ตาม สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0836 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.0743 ฟรังค์/ดอลลาร์ แต่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 105.26 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 105.41 เยน/ดอลลาร์ ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.4680 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4784 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.8548 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.8550 ดอลลาร์/ปอนด์ ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลงแตะระดับ 0.6807 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 0.6886 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลงแตะระดับ 0.8328 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8439 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย นายโดมินิก สเตราส์-คาห์น ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ขานรับมาตรการของสหรัฐในการฟื้นฟูภาคการเงิน พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลของประเทศอื่นๆจัดทำแผนรองรับไว้ด้วยเพื่อรับมือกับวิกฤติการเงินโลก "ผมเห็นด้วยกับมาตรการที่รัฐบาลสหรัฐกำลังนำมาใช้ และคาดหวังว่าจะมีการบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และผมแนะนำให้ประเทศอื่นๆเตรียมแผนการรองรับที่เบ็ดเสร็จ ผมเชื่อว่าวิกฤตการณ์เชิงระบบ ต้องการการแก้ปัญหาเชิงระบบ" นายสเตราส์-คาห์นกล่าวกับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์ส นอกจากนี้ นายสเตราส์-คาห์นระบุว่า ธนาคารกลางทั่วโลกควรป้องกันการแห่ถอนเงินออกจากธนาคารและสถาบันการเงิน โดยรับประกันกับผู้ฝากเงินว่าเงินฝากธนาคารมีความปลอดภัย พร้อมกับจัดหาสภาพคล่องให้กับสถาบันการเงินที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันที่ดี ขณะเดียวกันนายสเตราส์-คาห์นเรียกร้องให้กระทรวงการคลังจัดตั้งหน่วยงานขึ้น เพื่อซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและถือครองไว้จนกว่าจะครบกำหนดไถ่ถอน และสามารถขายต่อได้อย่างปลอดภัย เมื่อคืนนี้ เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติแผนการดังกล่าวอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเตือนว่าความล่าช้าจะทำให้เศรษฐกิจเผชิญความเสี่ยง แต่สมาชิกสภาคองเกรสให้เหตุผลว่า แผนการดังกล่าวยังขาดรายละเอียดที่ครอบคลุม