อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินเอเชียพุ่ง ขณะทั่วโลกวิตกแผนกู้วิกฤตการเงินสหรัฐล่าช้า

          อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินในเอเชียต่างปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางกระแสความวิตกกังวลที่ว่าสภานิติบัญญัติอาจใช้เวลาในการอนุมัติแผนกู้วิกฤตการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐของกระทรวงการคลังให้ล่าช้าออกไป
          อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกงและสิงคโปร์ระยะ 3 เดือนไต่ระดับขึ้นหลังจากที่เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้ง อิงค์ประสบภาวะล้มละลาย และบริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นเนล กรุ๊ป (AIG) ได้ถูกโอนเป็นกิจการของรัฐเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนในระยะสั้นไต่ระดับขึ้นสูงสุดในรอบ 2 เดือน ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ซึ่งบ่งชี้ว่าการอัดฉีดเงินสดกว่า 1.80 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐของธนาคารกลางต่างๆไม่สามารถช่วยบรรเทาแรงตื่นตระหนกต่อตลาดสินเชื่อได้
          "ความเคลื่อนไหวต่างๆที่ปรากฏขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นถึงภาวะซบเซาในตลาดเงินทั่วโลกซึ่งธนาคารกลางหลายแห่งยังขาดนโยบายที่ทรงประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาเหล่านี้" เกร็ก กิบบ์ส นักวิเคราะห์จาก ABN Amro Bank NV ในซิดนีย์กล่าว 
          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารกลางหลายแห่งยังคงลังเลใจที่จะปล่อยวงเงินกู้ท่ามกลางความกังวลที่ว่าสภาคองเกรสจะไม่สามารถอนุมัติแผนกู้วิกฤตการเงินที่นายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเสนอให้มีการซื้อสินทรัพย์ที่ขาดสภาพคล่องจากระบบธนาคาร มาใช้แก้ปัญหาได้ทันกับสถานการณ์ เนื่องจากขณะนี้ข้อเสนอดังกล่าวยังคงอยู่ในระหว่างการพิจารณาของสมาชิกจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตที่ยังมีความเห็นขัดแย้งกันอยู่