รมว.คลัง เล็งเชิญ"ดร.โกร่ง"เป็นที่ปรึกษา มุ่งหน้าสานต่องาน"หมอเลี้ยบ"

          นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.คลัง เปิดเผยว่า จะเชิญนายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เข้ามาเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวเพื่อให้คำแนะนำงานด้านเศรษฐกิจ โดยยืนยันว่าจะสานต่อนโยบายการทำงานของ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีต รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ที่มีเป้าหมายหลักในการดูแลผู้มีรายได้น้อยให้มีฐานะดีขึ้นผ่านนโยบายต่างๆ เช่น กองทุนหมู่บ้าน SML, OTOP, โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นต้น 
          ด้านนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง กล่าวถึงแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากนี้ไปว่าจะเร่งรัดงบประมาณการใช้จ่ายโดยเร็ว เพราะขณะนี้ใกล้สิ้นปีงบประมาณ 51 แล้วแต่ยังมีงบค้างจ่ายอีกจำนวนมาก ดังนั้นรัฐบาลจะต้องเดินหน้าการลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
          พร้อมมองว่าต้นทุนการกู้เงินของรัฐบาลที่จะนำมาใช้ในโครงการต่างๆ อาจสูงขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับแหล่งเงินมีน้อยลง ดังนั้นาการลงทุนในแต่ละโครงการจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่ามีความคุ้มทุนหรือไม่ หรืออาจเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการ PPP ที่มีอยู่แล้ว
          รมช.คลัง ยังแสดงความเป็นห่วงต่อการจัดเก็บรายได้ว่าจะเป็นไปได้ตามเป้าหมายหรือไม่ เพราะการที่ภาวะเศรษฐกิจโลกประสบปัญหาเช่นนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย ซึ่งแม้ปี 51 กรมสรรพากรจะจัดเก็บรายได้เกินเป้าหมายถึง 5 หมื่นล้านบาท แต่เมื่อภาวะเศรษฐกิจเป็นเช่นนี้ทำให้กรมสรรพากรต้องเข้าไปดูแลการจัดเก็บภาษีอย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น
          นายประดิษฐ์ กล่าวถึงกรณีการตีความการจำหน่ายหวยออนไลน์ว่ายังอยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งไม่ได้มีการดึงเรื่องกลับมาแต่อย่างใด ส่วนเหตุที่ต้องเลื่อนการขายหวยออนไลน์ออกไปเป็นเพราะคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลต้องการตรวจสอบแง่กฎหมายให้รอบคอบก่อน