นักวิเคราะห์คาดยอดการบริโภคนมในจีนปีหน้าร่วงหลังเกิดเหตุนมปนเปื้อน

          ยูบีเอส เอจีได้เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับการบริโภคนมในประเทศจีนว่า การบริโภคนมในจีนปีหน้าอาจจะร่วงลง หลังจากที่ขยายตัวขึ้น 9.3% ในปีที่แล้ว และอาจจะแย่ลงไปจนกระทั่งถึงปี 2553 เป็นอย่างน้อย เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นมปนเปื้อนสารเมลามีนจนทำให้เด็กทารกในจีนเสียชีวิตและป่วยเป็นจำนวนมาก
          หลังจากที่ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเพราะเกิดกรณีอาหารปนเปื้อนในจีนและในเอเชีย ยูบีเอสเชื่อว่า การบริโภคน้ำนมอาจจะฟื้นตัวขึ้นในปี 2553 ผู้ปกครองอาจจะเลือกนมที่ผลิตในต่างประเทศแทนการใช้ผลิตภัณฑ์นมในประเทศตามเมืองใหญ่ของจีน
          บลูมเบิร์กรายงานว่า การบริโภคนมในจีนประมาณ 3% นั้นมาจากผลิตภัณฑ์นมผง
          สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐคาดการณ์ว่า ความต้องการนมในสหรัฐอาจจะเพิ่มขึ้น 2.1% ปีนี้ และ 0.5% ในปีหน้า ส่วนอัตราการขยายตัวที่ 8.3% ในจีนปีนี้คงจะไม่บรรลุเป้า เนื่องจากความต้องการนมในประเทศคงจะถดถอยลงในช่วงที่เหลือของปี และคาดว่าจะลดลงในปีหน้า
          เนสท์เล เอสเอ กรุ๊ป และดาน่อน เอสเอ มองว่ายอดสั่งซื้อนมผงของบริษัทจะเพิ่มขึ้น แต่คงไม่เพิ่มขึ้นมากนักเมื่อพิจารณาจากยอดขายทั่วโลก ยูบีเอสมองว่า บริษัทผู้ผลิตนมรายใหญ่ของจีน คือ ไชน่า เมงหยู ไดอะรี และอินเนอร์ มองโกเลีย หยี่ลี่ อินดัสเทรียล กรุ๊ป จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก และจะเป็นต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะกอบกู้ชื่อเสียงขึ้นมาได้