มาร์ช (Marsh) บริษัทโบรกเกอร์ประกันภัยและที่ปรึกษาความเสี่ยงชั้นนำของโลกได้แนะให้บรรดาเจ้าของธุรกิจทั่วเอเชียเบนเข็มจากการทำหนังสือค้ำประกัน (bank guarantee) มาทำสัญญารับประกันหนี้สิน (surety bond) เพื่อให้ธุรกิจสามารถระดมทุนได้เพิ่มมากขึ้น
ริชาร์ด กรีน หัวหน้าฝ่ายสินเชื่อเพื่อการค้าประจำภูมิภาคเอเชียกล่าวว่า “วิกฤตการเงินที่กำลังเกิดขึ้นกดดันให้หลายบริษัทต้องหาหนทางใหม่ในการเข้าถึงทุน เพื่อให้ช่องทางการทำธุรกรรมของบริษัทเปิดกว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งเจ้าของธุรกิจส่วนมากไม่ทราบว่าหนังสือค้ำประกันเป็นตัวทำลายแหล่งเงินทุน ส่วนสัญญารับประกันหนี้สินให้ความคุ้มครองในระดับเดียวกันแต่ไม่ส่งผลกระทบต่อแหล่งเงินทุน"
คุณกรีนกล่าวเสริมว่า "สัญญารับประกันหนี้สินมีผู้รับประกันที่มีความมั่นคงและมีเงินทุนหมุนเวียนสม่ำเสมอ โดยเจ้าของธุรกิจสามารถทำสัญญารับประกันหนี้สินได้ในอัตราที่ต้องการ เนื่องจากปัจจุบันสภาพการแข่งขันในเอเชียค่อนข้างดี อย่างไรก็ตาม สภาพการณ์ดังกล่าวไม่ได้คงอยู่ตลอดไป ดังนั้นเจ้าของธุรกิจต้องรีบคว้าโอกาสตั้งแต่ตอนนี้"
ทั้งนี้ สัญญารับประกันหนี้สิน ซึ่งโดยมากทำกันในโครงการก่อสร้างต่างๆ ถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าซึ่งสามารถใช้แทนหนังสือค้ำประกันได้ สัญญารับประกันหนี้สินจะช่วยสร้างความมั่นใจว่าโครงการต่างๆ จะเสร็จสมบูรณ์ภายในเวลาและเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งในหลายกรณี สัญญารับประกันหนี้สินมีภาษาและระดับการคุ้มครองเทียบเท่ากับหนังสือค้ำประกัน และยังเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในกรณีที่การเข้าถึงเงินทุนนั้นมีความยากลำบาก
“สัญญารับประกันหนี้สินได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจแต่อย่างใด เนื่องจากสัญญารับประกันหนี้สินเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมและมั่นคงที่สุดในสภาพการณ์ปัจจุบัน บางครั้งสิ่งที่ควรทำที่สุดคือการยึดติดกับผลิตภัณฑ์ที่สามารถต้านทานสภาพการณ์ต่างๆ ได้ในระยะยาว ซึ่งสัญญารับประกันหนี้สินและผลิตภัณฑ์ประกันสินเชื่อเพื่อการค้าอื่นๆ คือคำตอบที่ถูกต้องที่สุด" กรีนกล่าวทิ้งท้าย