อินโดนีเซียวอนบริษัทรัฐส่งรายได้จากธุรกิจส่งออก-ยกเลิกภาษีขายน้ำมันปาล์มหวังกระตุ้นค่าเงิน

อินโดนีเซียได้ขอให้บริษัทของรัฐส่งรายได้จากการส่งออกกลับประเทศมากขึ้น รวมถึงการยกเลิกการจัดเก็บภาษีการขายน้ำมันปาล์มในต่างประเทศ เพื่อหนุนค่าเงินรูเปียห์ หลังจากที่เงินรูเปียห์ดิ่งลงมากถึง 29% เมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่รัฐบาลอินโดนีเซียได้ออกแถลงการณ์เมื่อคืนว่า รัฐบาลและธนาคารกลางอินโดนีเซียจะเข้าซื้อพันธบัตรจากตลาด เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน

บลูมเบิร์กรายงานว่า เงินรูเปียห์ร่วงลงถึง 8.7% เมื่อวานนี้ ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้น โดยในวันนี้ เงินรูเปียห์ปรับตัวขึ้น 0.9% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ บริษัทของรัฐบาลเองจะต้องรายงานตัวเลขรายได้ในรูปของสกุลเงินดอลลาร์และเข้าซื้อเงินตราต่างประเทศจากธนาคารในประเทศ

อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดของโลกนั้น ต้องการกระตุ้นค่าเงินหลังจากที่เงินรูเปียห์ดิ่งลงแตะระดับต่ำในรอบ 7 ปี รวมทั้งฟื้นฟูความเชื่อมั่นนักลงทุนที่หดหายไป เพราะกองทุนในตลาดเกิดใหม่ที่หดตัวลง ท่ามกลางวิกฤตสินเชื่อโลก ตลาดหุ้นอินโดนีเซียก็ร่วงลงมาแล้ว 59% ในปีนี้ และยังมีแนวโน้มที่จะดิ่งลงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่พันธบัตรของอินโดนีเซียก็ร่วงลงเช่นกัน

เดวิด โคเฮอน ผู้อำนวยการฝ่ายคาดการณ์เศรษฐกิจของแอ็คชั่น อิโคโนมิคส์ กล่าวว่า อินโดนีเซียคาดว่าจะตกเป็นเหย่อหลังจากที่สกุลเงินของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ได้รับแรงกดดันจากเงินรูเปียห์ที่ร่วงลง ตอนนี้เรียกได้ว่าทางเลือกแบบสะดวกง่ายดายที่จะสกัดการร่วงลงของค่าเงินรูเปียห์มีไม่มากนัก

รมว.คลังอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียอาจจะใช้ข้อตกลงสว็อปสกุลเงินกับธนาคารกลางจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ หากพิจารณาแล้วว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น