นางอมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวในการสัมมนา"The Future of Thai Economy"โดยยอมรับว่า มีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะขยายตัวต่ำ 3.8% ซึ่งเป็นคาดการณ์ขั้นต่ำในช่วง 3.8-5.0 ที่ ธปท.ประเมินไว้ และอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจอาจจะเข้าสู่ช่วงต่ำสุดภายในปีหน้า
ทั้งนี้ ธปท.มองว่าเศรษฐกิจไทยในปีหน้ามีโอกาสได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลต่อภาคการส่งออกของไทยโดยตรง ขณะที่การลงทุนในประเทศก็อาจจะได้รบผลกระทบจากโครงการเมกะโปรเจ็คต์ของภาครัฐที่มีโอกาสเลื่อนออกไปจากที่วางแผนไว้ว่าจะเริ่มขับเคลื่อนได้ในไตรมาส 1/52
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ก็จะช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการได้
นางอมรา กล่าวว่า ธปท.ยังหวังว่าการที่รัฐบาลพยายามผลักดันมาตรการต่าง ๆ มากระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งมาตรการลดผลกระทบวิกฤติการเงินโลก หากมาตรการเหล่านี้ประสพความสำเร็จและสามาถรแก้ไขปัญหาได้จริง ก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยให้ขยายตัวได้ดีขึ้นได้
"ตอนนี้จะต้องให้รัฐเป็นตัวนำในการสร้างควาเชื่อมั่นให้กับเอกชน ในการไปลทุนต่าง ๆ รวมทั้งต้องพึ่งพา domestic demand มากขึ้นด้วย"นางอมรา กล่าวจากที่พูดคุยกับภาคเอกชนพบว่า ปัญหาการเมืองทำให้นักธุรกิจหลายรายชะลอการลงทุนออกไป ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจลดลงเรื่อย ๆ นักลงทุนไม่กล้าเข้าไปลงทุน และมองว่าภาคเอกชนนอกจากจะชะลอการลงทุนใหม่ ๆ แล้วก็จะคงกำลังการผลิตที่มีอยู่ไว้ในระดับเดิมด้วย