ราคาบ้านในออสเตรเลียร่วงลง ขณะที่ยอดขายปลีกอ่อนตัวลงมากที่สุดในรอบ 3 ปี และอัตราการโฆษณาจ้างงานก็อ่อนตัวลงเป็นเดือนที่ 6 ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจของออสเตรเลียกำลังชะลอตัวลง
ส่วนตัวเลขการผลิตก็ชะลอตัวมากเช่นกันในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคก็ตกลงเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนก.พ. 2549 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สนับสนุนมุมมองของธนาคารกลางออสเตรเลียที่ว่า อัตราเงินเฟ้อที่ขยายตัวเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2544 จะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจปีหน้าชะลอตัวลง
ผู้บริโภค ธุรกิจต่างๆ รวมทั้งกลุ่มผู้ซื้อบ้านต่างยกเลิกแผนการใช้จ่ายลง เนื่องจากวิกฤตตลาดเงินส่งผลกระทบและอาจจะฉุดให้เศรษฐกิจในสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น เข้าสู่ภาวะถดถอย ผลกระทบที่ลุกลามไปทั่วอาจจะทำให้นายเกลนน์ สตีเวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียลดดอกเบี้ยลงมากที่สุดถึง 1% ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะถดถอยเมื่อปี 2535
บลูมเบิร์กรายงานว่า เคที ดีน นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป กล่าวว่า วิกฤตการเงินโลกส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจภายในประเทศออสเตรเลีย ความผันผวนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจที่อ่อนตัวลงกว่าคาดการณ์ รวมทั้งอัตราว่างงานที่สูงขึ้นยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้ราคาบ้านอยู่ในช่วงขาลง
เงินดอลลาร์ออสเตรเลียซื้อขายกันอยู่ที่ระดับ 66.02 เซนต์สหรัฐเมื่อเวลา 1.12 น.ตามเวลาท้องถิ่นในซิดนีย์ จากระดับปิดในตลาดเอเชียเมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ 66.45 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย ทั้งนี้ อัตราการโฆษณาตำแหน่งงานผ่านทางหนังสือพิมพ์และอินเทอร์เน็ตดิ่งลง 5.9% เมื่อเดือนต.ค. มาอยู่ที่ระดับเฉลี่ยที่ 231,135 ตำแหน่งต่อสัปดาห์ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ตกลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2554