กิจกรรมภาคการผลิตของสหรัฐประจำเดือนต.ค.2551 ทรุดตัวลงหนักสุดในรอบ 26 ปี ขณะที่ธนาคารต่างๆคุมเข้มการออกเงินกู้กับภาคธุรกิจมากขึ้น ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ซบเซาได้บั่นทอนแนวโน้มการส่งออกของสหรัฐอเมริกา
สถาบันจัดการด้านอุปทานเปิดเผยว่า ดัชนีชี้วัดกิจกรรมด้านการผลิตของโรงงานทั่วประเทศร่วงลงสู่ระดับ 38.9 จุด จากระดับ 43.5 จุดในเดือนก.ย. ซึ่งดิ่งลงหนักกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 41 จุด ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่าการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในเดือนก.ย.ร่วงลงเป็นครั้งที่ 8 ในรอบ 10 เดือน
รายงานข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้อาจสร้างแรงกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปรับลดดอกเบี้ยและเพิ่มมาตการด้านภาษีรวมถึงการใช้จ่าย โดยข้อมูลดังกล่าวยังบ่งชี้ด้วยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าส่งออกสหรัฐที่ทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี
"ขณะนี้ภาคการผลิตของสหรัฐกำลังอยู่ในภาวะถดถอยขั้นรุนแรง"จอห์น ลอนสกี้ นักวิเคราะห์จาก Moody's Capital Markets Group ในนิวยอร์กกล่าว "เฟดต้องเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ยลงอีกและอาจมีการใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินเพิ่มมากขึ้น"ทั้งนี้ สถานการณ์เลวร้ายในธุรกิจธนาคารได้ส่งผลกระทบให้บริษัทหลายแห่งทำเรื่องขอกู้ยืมเงินได้ยากขึ้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากธนาคารไม่ต้องการประสบภาวะขาดทุนจากวิกฤตการเงิน