ห้างสรรพสินค้าในสหรัฐงัดไม้เด็ดดึงดูดลูกค้าช่วงเทศกาลวันหยุด

ข่าวต่างประเทศ Wednesday November 26, 2008 17:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บรรดาห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีกในสหรัฐต่างพากันช่วงชิงความได้เปรียบในการดึงดูดนักช็อปช่วงเทศกาลวันหยุด โดยหลายรายตัดสินใจงัดแคมเปญลดราคามาใช้เร็วกว่าปีก่อนๆ จากเดิมที่เริ่มต้นลดราคาในวันศุกร์หลังวันขอบคุณพระเจ้า

เมซีส์ (Macy’s Inc.) ห้างสรรพสินค้ารายใหญ่อันดับสองของสหรัฐ ได้เริ่มลดราคาสินค้าครั้งใหญ่สุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่ฤดูกาลจับจ่ายซื้อสินค้าในช่วงวันหยุดจะเริ่มต้นขึ้นในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ตามธรรมเนียมที่ถือปฏิบัติกันมา

ขณะที่ โคห์ลส คอร์ป (Kohl’s Corp.) ได้จัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าถึง 40% เป็นเวลา 3 วันซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันนี้ โดยโคห์ลสก็เป็นอีกรายที่ลดราคาสินค้าตัดหน้า วอลมาร์ท (Wal-Mart Stores Inc.) ร้านค้าปลีกรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ซึ่งจะเปิดให้บริการแก่ลูกค้าในเวลา 5.00 น.ของวันที่ 28 พ.ย. โดยหวังว่า ตุ๊กตา Hannah Montana ที่ห้างฯตั้งราคาไว้ที่ 5 ดอลลาร์ และกางเกงยีนส์ Wrangler ราคา 8 ดอลลาร์ จะสามารถดึงดูดบรรดานักช็อปได้

และเพื่อดึงดูดลูกค้า เซียร์ส (Sears Holdings Corp.) ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าใหญ่สุดของสหรัฐ จะใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ layaway เป็นครั้งแรกใน 19 ปี Layaway เป็นกลยุทธ์การตลาดที่นำกลับมาใช้อีก ในยุคเศรษฐกิจปัจจุบันที่กำลังตกสะเก็ด โดยเริ่มมีครั้งแรกในยุค Great Depression แต่ได้เลิกใช้ไป เมื่อมีการใช้บัตรเครดิตเพิ่มมากขึ้น การซื้อสินค้าแบบ layaway นั้น ลูกค้าจะต้องจ่ายเงินค่ามัดจำเพื่อจองสินค้ากับร้านค้า เมื่อชำระค่าสินค้าส่วนที่เหลือจนหมดแล้วถึงจะสามารถนำสินค้ากลับไปได้ ซึ่งเซียร์สก็หวังว่าการซื้อสินค้าด้วยระบบเงินผ่อนจะสามารถดึงดูดลูกค้าที่มีเงินสดไม่พอและไม่ต้องการใช้บัตรเครดิตได้

ด้าน Simon Property Group Inc. ผู้ประกอบการช็อปปิ้งมอลล์รายใหญ่สุดของสหรัฐ มีแผนที่จะขยายเวลาเปิดให้บริการถึงช่วงเที่ยงคืนในวันขอบคุณพระเจ้า

บลูมเบิร์กรายงานว่า มาตรการเชิงรุกเหล่านี้ส่งสัญญาณว่า บรรดาผู้ค้าปลีกมองแนวโน้มเศรษฐกิจและเทศกาลวันหยุดไม่สู้ดีนัก เช่นเดียวกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ฤดูจับจ่ายช่วงฮอลิเดย์ปีนี้อาจซบเซาที่สุดในรอบ 6 ปีเลยทีเดียว โดยผลสำรวจของกัลลัพ อิงค์ ระบุว่า ในปีนี้ ผู้ซื้อแต่ละรายอาจใช้เงินซื้อของขวัญคริสต์มาสโดยเฉลี่ยที่ 616 ดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่าปีก่อนประมาณ 29%

ทั้งนี้ ชาวอเมริกันเรียกวันศุกร์หลังวันขอบคุณพระเจ้าว่า Black Friday เนื่องจากโดยปกติแล้ววันนี้จะเป็นวันที่ร้านค้าปลีกสามารถทำกำไรได้ แต่ในปีนี้ ด้วยสภาพเศรษฐกิจเลวร้ายเช่นนี้ มีความเป็นไปได้ว่า Black Friday จะกลายเป็น Red Friday



แท็ก สหรัฐ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ