นักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็นคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อของอินโดนีเซียในเดือนพ.ย.อาจจะร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงและอาหารอ่อนตัวลง ส่วนราคาผู้บริโภคของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 11.6% จากระดับปีที่แล้ว หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 11.8% ในเดือนต.ค. โดยสำนักงานสถิติอินโดนีเซียจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้
อินโดนีเซียได้ลดราคาเชื้อเพลิงลง 8.3% หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลงไป 63% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา โดยราคาน้ำมันปาล์มและถั่วเหลืองที่ลดมีส่วนช่วยหนุนอัตราเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจของประเทศแถบเอเชีย ทางธนาคารกลางอินโดนีเซียมีกำหนดการประชุมในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
อเล็กซานเดอร์ ซูกานดี นักเศรษฐศาสตร์ของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ตกลงทำให้รัฐบาลสามารถลด ราคาลง ซึ่งช่วยคลายแรงกดดันในเรื่องต้นทุนการผลิต สำรองอาหารที่เพียงโดยเฉพาะข้าวก็มีส่วนช่วยควบคุมราคาข้าวด้วยเช่นกัน
การขยายตัวของราคาผู้บริโภคชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 0.2% ในเดือนพ.ย.จากระดับเดือนต.ค. หลังจากที่ขยายตัว 0.5% ในเดือนต.ค. ขณะที่การขยายตัวด้านการส่งออกคาดว่า จะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 16.3% ในเดือนต.ค. หลังจากที่ขยายตัว 28.5% ในเดือนที่แล้ว ส่วนการนำเข้าขยายตัว 40% จากระดับ 38.5%
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีหุ้นอินโดนีเซียขยายตัว 8.3% ซึ่งถือเป็นอัตราการขยายตัวที่สูงที่สุดในรอบ 15 เดือน หุ้นพีที บูมี รีซอร์สเซส ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตถ่านหินรายใหญ่อันดับ 1 ของเอเชีย ดีดขึ้น 42% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับเป็นอัตราการขยายตัวที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปี