โรยัล ฟิลิปส์ อิเล็กทรอนิกส์ เอ็นวี ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดในยุโรปยอมรับว่า บริษัทอาจทำรายได้ต่อหุ้นได้ไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าภายในปี 2553 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ผู้บริโภคและสินค้าในตลาดยานยนต์
นอกจากนี้ ฟิลิปส์ยังได้ปรับลดสัดส่วนการถือครองหุ้นของแอลจี ดิสเพลย์ โค ผู้ผลิตจอภาพ LCD รายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก และเอ็นเอ็กซ์พี บีวี ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลกลงมาอีก 1.1 พันล้านยูโร (1.39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในไตรมาสนี้ เนื่องจากมูลค่าหุ้นในตลาดปรับตัวลดลง
"สถานการณ์ที่เลวร้ายจากภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอกำลังส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ในตลาดสำคัญของโลกในขณะนี้ซึ่งจะทำให้ฟิลิปส์ต้องพิจารณาถึงสถานะทางการเงินของบริษัท" เจอราร์ด เคลสเตอร์ลี ซีอีโอของฟิลิปส์กล่าว "ภาวะขาลงทางเศรษฐกิจที่เราเห็นในขณะนี้กำลังจมดิ่งลงอย่างรวดเร็วและรุนแรงกว่าที่เราคาดคิด"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในเดือนเม.ย. ฟิลิปส์คาดว่า รายได้ก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมอาจพุ่งสูงขึ้นถึง 10% ไปแตะที่ 11% ของยอดขายภายในปี 2553 โดยเมื่อปีที่แล้ว ฟิลิปส์มีผลกำไรจากการดำเนินงาน 7.7% และหวังว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปี 2553