บริษัท นิปปอน ยูเซน เค.เค. ซึ่งเป็นบริษัทชิปปิ้งรายใหญ่สุดของญี่ปุ่น ได้ยกเลิกแผนการเพิ่มจำนวนเรือขนส่งสินค้าถึง 60 ลำของบริษัท เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทำให้ความต้องการขนส่งสินค้าทางเรือลดลงตามไปด้วย
อัตสึโตะ กาโตะ โฆษกของบริษัท กล่าวว่า นิปปอน ยูเซน จะเพิ่มจำนวนเรืออีกเล็กน้อยในช่วงสิ้นเดือนมี.ค. 2554 เป็นจำนวน 940 ลำ จากแผนเดิมที่จะเพิ่มจำนวนเรือเป็น 1,000 ลำ ที่ผ่านมา บริษัทมีเรืออยู่ 776 ลำเมื่อช่วงสิ้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ บริษัทยังจะทบทวนการคาดการณ์เรื่องกำไรในระยะกลางปีหน้าด้วยเช่นกัน
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนีค่าระวางเรือ BDI ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราการขนส่งสินค้าโภคภัณฑ์ทางเรือรายวัน ดิ่งลงถึง 93% แล้วในปีนี้ ขณะที่การคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อทำให้เทรดเดอร์มีความสามารถในการซื้อสินค้าน้อยลง ขณะที่ความต้องการสินค้าที่ต้องมีการขนส่งทางเรือทั่วโลกก็ลดลงไปด้วย
บริษัทคาดว่า รายได้สุทธิในปีงบประมาณปัจจุบันจะอยู่ที่ 1.40 แสนล้านเยน หรือ 1.51 พันล้านดอลลาร์ ส่วนรายได้ในช่วงปีงบประมาณ 2 ปีหน้าคาดว่า จะอยู่ที่ 1.45 แสนล้านเยน
หุ้นนิปปอน ยูเซน ดีดตัวขึ้นถึง 5.1% แตะ 492 เยนในตลาดหุ้นโตเกียว และซื้อขายกันอยู่ที่ 491 เยนเมื่อเวลา 9.29 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยราคาหุ้นตกลงไปแล้ว 44% ในปีนี้
ขณะที่บริษัท มิตซุย โอ.เอส.เค ไลน์ส บริษัทชิปปิ้งที่ทำกำไรได้สูงสุดของญี่ปุ่น เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า บริษัทอาจจะลดคาดการณ์รายได้ลงในปีงบประมาณปัจจุบัน เนื่องจากอัตราขนส่งถ่านหินและสินแร่เหล็กต่อวันนั้นดิ่งลงสู่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ถึง 98%