นักวิเคราะห์คาดยอดขาดดุลการค้าสหรัฐเดือนต.ค.ร่วงหนักสุดในรอบ 3 ปีหลังราคาน้ำมันดิ่งหนัก

ข่าวต่างประเทศ Thursday December 11, 2008 13:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนต.ค.ของสหรัฐจะร่วงลง 5.3% แตะระดับ 5.35 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากราคาน้ำมันที่ร่วงลงส่งผลให้ยอดนำเข้าสินค้าหลายประเภทปรับตัวลดลงด้วย

จอห์น ซิลเวีย หัวหน้านักวิเคราะห์จากธนาคารวาโชเวียในรัฐนอร์ธ แคโรไลนา กล่าวว่า ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจในสหรัฐกำลังซบเซาลงอย่างหนัก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มถดถอยรุนแรง นอกจากนี้ ภาวะสินเชื่อตึงตัวที่เกิดขึ้นทั่วโลกยังส่งผลให้เศรษฐกิจในทวีปยุโรป เอเชีย และละตินอเมริกา หดตัวลงด้วย อีกทั้งส่งผลให้ความต้องการสินค้าในสหรัฐลดน้อยลง จึงทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐจะยังคงพุ่งขึ้นจนถึงปีหน้า

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดขาดดุลการค้าเดือนต.ค.ในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย

ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนก.ย.ร่วงลง 4.4% แตะระดับ 5.65 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2551 ซึ่งเป็นผลมาจากยอดนำเข้าน้ำมันร่วงลงอย่างหนัก

ไมเคิล เกรกอรี หัวหน้านักวิเคราะห์จาก BMO Capital Markets กล่าวว่า "ความต้องการในการนำเข้าน้ำมันดิบ รถยนต์ และโทรทัศน์จากต่างประเทศลดลง เนื่องจากวิกฤตการณ์สินเชื่อทั่วโลกส่งผลให้ผู้บริโภคและภาคเอกชนของอเมริกันระมัดระวังการใช้จ่าย จึงทำให้ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจในยุโรปและญี่ปุ่นที่ทรุดตัวลงกำลังฉุดรั้งยอดส่งออกของสหรัฐให้ลดลงด้วย

ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 หดตัวลง 0.3% ซึ่งเป็นการติดลบรุนแรงที่สุดในรอบ 7 ปี เนื่องจากผู้บริโภคลดการใช้จ่ายและภาคธุรกิจลดการลงทุน ซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นใหม่ที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ระยะถดถอยแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ