ทอม วิลแซก อดีตผู้ว่าการรัฐไอโอวาวัย 58 ปี ซึ่งเป็นตัวเก็งที่จะได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรภายใต้คณะทำงานของนายบารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐ อาจต้องเจอศึกหนักในการแก้ปัญหาหนี้สินภาคการเกษตร
นักวิเคราะห์ด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และสินค้าเกษตรคาดการณ์ว่า นายวิลแซก ซึ่งมีลุ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรแทนนายเอ็ด แชฟเฟอร์นั้น อาจต้องแบกรับภารกิจสำคัญในการแก้ปัญหาหนี้สินภาคการเกษตร รวมถึงการเพิ่มวงเงินอุดหนุนด้านการเกษตรหลังจากที่ราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกตกต่ำลง ตลอดจนต้องปรับปรุงนโยบายด้านเชื้อเพลิงชีวภาพ
ทอม ฮาร์กิน ประธานคณะกรรมาธิการด้านการเกษตรกล่าวว่า จากประสบการณ์ของนายวิลแซกที่เคยเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติและผู้ว่าการรัฐที่มีการปลูกข้าวโพดมากที่สุดของสหรัฐได้บ่มเพาะให้เขามีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นผู้คุมบังเหียนกระทรวงที่จำเป็นต้องใช้จ่ายเงินมากที่สุดกระทรวงหนึ่ง โดยเชื่อว่านายวิลแซกจะนำเอาประสบการณ์ที่คร่ำหวอดในด้านการเกษตรมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับทางกระทรวงมากที่สุด
ทั้งนี้ ไอโอวาเป็นหนึ่งในรัฐที่มีผลผลิตถั่วเหลือง ข้าวโพด มากที่สุดในสหรัฐ และเป็นรัฐที่มีมูลค่าทางเกษตรมากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากรัฐแคลิฟอร์เนีย
อย่างไรก็ดี หากนายวิลแซกได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรตามที่ได้คาดการณ์ เขาจะต้องเผชิญความท้าทายที่รออยู่ทั้งจากกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องหนี้สินทางการเกษตรและการกำหนดทิศทางของนโยบายด้านเชื้อเพลิงเอทานอล
นอกจากนี้ ภาคการเกษตรของสหรัฐกำลังเผชิญแรงกดดันที่รุนแรงในการจัดตั้งเงินอุดหนุนทางการเกษตร เนื่องจากราคาข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลืองร่วงลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่เกษตรกรหมดความหวังที่จะมีรายได้มากขึ้น เนื่องจากคาดว่าสหรัฐยังต้องเจอกับตัวเลขขาดดุลบัญชีหลายล้านล้านดอลลาร์ในการใช้เงินจำนวนมากเพื่อต่อสู้กับวิกฤตสินเชื่อ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน