คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) อนุมัติแผนลงทุนโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.) ระยะที่ 2(2552-57) ซึ่งใช้เงินกว่า 77,885 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนในทุกแผนงานยกเว้นการก่อสร้างทางวิ่ง(รันเวย์) ที่ 3 ซึ่งใช้เงินลงทุน 1,355 ล้านบาท ที่ยังมีปัญหาการคัดค้านจากประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ดังนั้นจึงเห็นควรให้จัดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่ยอมรับ รวมทั้งต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ(อีไอเอ) ให้ชัดเจนก่อนนำมาเสนอให้คณะกรรมการฯ พิจารณาอีกครั้ง ก่อนเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาเห็นชอบต่อไป
"ขณะนี้ประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังมีการร้องเรียนเรื่องค่าชดเชยไม่แล้วเสร็จ และยังมีหลายคนคัดค้าน จึงต้องการให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการให้เรียบร้อย" นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รองเลขาธิการ สภาพัฒน์ กล่าว
นอกจากนี้ คณะกรรมการสภาพัฒน์ยังเห็นว่า กระทรวงคมนาคม และ บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT) หรือ ทอท. ต้องพิจารณาเรื่องผลกระทบจากปริมาณการจราจร ผู้โดยสาร และรายได้ ว่ายังเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้หรือไม่หลังเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจโลก
ขณะเดียวกันต้องจัดทำแผนเตรียมความพร้อมให้ชัดเจนกรณีสนามบินไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ไม่ว่าจะเป็น การถูกกลุ่มบุคคลบุกยึดหรือภัยธรรมชาติ เพื่อให้เกิดความรอบคอบและสร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสาร ที่สำคัญต้องการให้กระทรวงคมนาคมไปจัดทำรายละเอียดที่ชัดเจนของการใช้ประโยชน์จากท่าอากาศยานดอนเมืองตามมติ ครม.เมื่อเดือน ก.พ.50 ให้ชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะจนถึงปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจน