ยอดการส่งออกของญี่ปุ่นร่วงลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพ.ย. 2552 เนื่องจากอุปสงค์รถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกปรับตัวลดลง จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้มีความเป็นไปได้ว่าบริษัทหลายแห่งจะปิดโรงงานและปรับลดการจ้างงานมากขึ้นท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดส่งออกตกลง 26.7% จากปีก่อนหน้านี้ซึ่งร่วงหนักกว่าที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของบลูมเบิร์กคาดว่า จะลดลง 22.3% นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังดิ่งลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลในปี 2523
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.1% หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจดิ่งลงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2518 และเงินเยนพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 13 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่บริษัทฮอนด้า มอเตอร์ โคเปิดเผยว่าบริษัทอาจยกเลิกการผลิตในต่างประเทศหากเงินเยนยังแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 09.35 น.เงินเยนเทรดที่ระดับ 89.70 ต่อดอลลาร์จากระดับ 89.50 ต่อดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวไต่ระดับขึ้น 0.6% โดยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของสหรัฐร่วงลงในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2544
ทั้งนี้ การส่งออกไปยังสหรัฐร่วงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ 34% ขณะที่การส่งออกไปยุโรปทรุดฮวบลง 31%