"อลงกรณ์"ไฟเขียวตั้งกก.สอบระบายข้าวยุค"ไชยา"หวั่นไม่โปร่งใส ทำรัฐขาดทุน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 24, 2008 17:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ เห็นด้วยกับกระทรวงพาณิชย์ที่จะตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบความโปร่งใสของการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลทั้ง 2 ครั้ง รวม 2.8 ล้านตัน สมัยที่นายไชยา สะสมทรัพย์ เป็นรมว.พาณิชย์ เพราะเห็นว่าการระบายข้าวดังกล่าวทำให้รัฐขาดทุนมหาศาลกว่า 30,000 ล้านบาท ดังนั้นเมื่อได้เข้ามาทำงานที่กระทรวงพาณิชย์แล้วจะดูแลให้การระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลเป็นไปอย่างโปร่งใส และรัฐต้องได้ประโยชน์สูงสุด

ส่วนการออก พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งนั้น จะต้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสร้างความเป็นธรรมให้กับการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกค้าส่งของไทย โดยยืนยันว่าการออกกฎหมายดังกล่าวจะไม่กระทบต่อการลงทุนของค้าปลีกรายใหญ่ อย่างไรก็ตามจะนำร่างกฎหมายดังกล่าวที่กระทรวงพาณิชย์ยกร่างไว้ก่อนหน้านี้มาทบทวนว่าจะต้องปรับปรุงรายละเอียดในส่วนใดบ้างที่ไม่ทำให้เกิดการกีดกันทางการค้า

"ยืนยันว่าจะผลักดันกฎหมายค้าปลีกค้าส่งแน่นอน แต่ต้องขอดูรายละเอียดของตัวร่างของกระทรวงพาณิชย์ก่อน เพราะที่ผ่านมีการจัดทำขึ้นมาหลายชุดเพื่อมาปรับปรุงใหม่ และจะทำให้เสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้ หากรัฐบาลได้ทำงานแบบอยู่ยาว 3 ปี นายอลงกรณ์กล่าว

สำหรับมาตรการระยะสั้นที่จะแก้ไขปัญหาให้กับผู้ค้าปลีกรายย่อย(โชห่วย)ที่ได้รับผลกระทบจากการขยายสาขาของค้าปลีกรายใหญ่นั้น จะหารือกับ รมว.พาณิชย์ ว่าจะสามารถใช้กฎหมายที่กระทรวงพาณิชย์มีอยู่ทั้ง พ.ร.บ.และกฎกระทรวง เพื่อออกมาตรการควบคุมการดำเนินธุรกิจค้าปลีกค้าส่งในส่วนใดบ้าง ระหว่างมาตรการคุมพื้นที่ มาตรการคุมราคา และมาตรการคุมด้านระยะเวลาเปิด-ปิด

รมช.พาณิชย์ กล่าวด้วยว่า จะปรับปรุง(รีแบรนด์ดิ้ง)แบรนด์ธงฟ้าใหม่ นอกเหนือแค่การจัดงานแฟร์จำหน่ายสินค้าราคาถูกอย่างเดียว แต่ต้องเข้าไปช่วยเหลือผู้บริโภคด้านอื่นๆ ด้วย ขณะที่การดูแลสินค้าเกษตรนั้น ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่รื้อมาตรการแทรกแซงสินค้าเกษตรที่รัฐบาลเดิมได้อนุมัติไปแล้ว แต่จะหามาตรการอื่นทำควบคู่กันไป

ด้านนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จะเร่งลดราคาสินค้าลงตามนโยบายของรมว.พาณิชย์ โดยหลังปีใหม่จะเรียกกลุ่มสินค้าของใช้ในชีวิตประจำวันมาหารือเป็นกลุ่มแรก เพื่อพิจารณาว่าต้นทุนปรับลดลงเพียงใด โดยจะขอความร่วมมือให้ผู้ผลิตปรับราคาสินค้าลงอีกรอบ รวมทั้งกลุ่มวัสดุก่อสร้างและผลิตภัณฑ์เหล็กที่ขณะนี้ต้นทุนทั่วโลกปรับลดลงมากแล้วตามราคาน้ำมัน

"ที่สำคัญจะหารือกับกลุ่มอาหาร เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพื่อดูแนวโน้มต้นทุนด้วย เพราะขณะนี้ต้นทุนผลิตสำคัญอย่างแป้งสาลี ที่ใช้ผลิตเส้นราคาโลกลดลงมาก รวมถึงต้นทุนด้านเชื้อเพลิง มั่นใจว่าภายใน 3 เดือนนี้ จะสามารถลดราคาสินค้า ช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนได้มากแน่" อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ