นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ยอมรับว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเงินฝืด(Technical Deflation)ในบางจังหวะ หากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในระยะต่อจากนี้ จะทำให้อัตราเงินเฟ้อติดลบในบางเดือน แต่ไม่ใช่สาเหตุจากเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง และเชื่อว่าทั้งปี 52 อัตราเงินเฟ้อยังเป็นบวก
ภาวะดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อปัญหาการว่างงาน แต่ก็ยังเชื่อว่าในปีหน้าอัตราการว่างงานคงไม่เลวร้ายเท่ากับช่วงวิกฤติเศรษฐกิจในปี 41 เพราะแรงงานที่เข้ามาในระบบช่วงครึ่งแรกของปีนี้อยู่ที่ 2% จากปกติจะอยู่ที่ราว 1.4% ของแรงงานทั้งหมด และหากปีหน้าแรงงานที่เข้ามา 1.4% ตามปกติ ก็จะทำให้มีจำนวนผู้ว่างงานประมาณ 8 แสนคน
นางอัจนา เสนอแนะให้รัฐบาลเร่งใช้นโยบายการคลังให้เร็วและเน้นให้ตรงจุดกับกลุ่มที่มีความเดือดร้อนที่สุด เพราะคาดว่าจากนี้จะเริ่มเห็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกเกิดขึ้นแบบเดือนต่อเดือน ส่วนการลงทุนโครงการเมกะโปรเจ็คต์ที่ต้องใช้เวลานานอาจจะทำให้การเบิกจ่ายเงินไม่ทันต่อเศรษฐกิจ
ในส่วนนโยบายการเงินไม่มีปัญหาสามารถใช้อัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เพราะเรื่องเงินเฟ้อไม่ใช่ปัญหาแล้ว