สมาคมเหล็กและเหล็กกล้าของจีน (CISA) เปิดเผยว่า เมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา โรงเหล็กรายใหญ่ๆของประเทศขาดทุน 1.27 หมื่นล้านหยวน หรือ 1.87 พันล้านดอลลาร์ นับเป็นเดือนที่ 2 แล้วที่โรงเหล็กของประเทศขาดทุนมาตั้งแต่เดือนต.ค. โดยโรงงานเหล็ก 48 แห่ง จากจำนวน 71 โรงขาดทุนรวมกัน 1.4 หมื่นล้านหยวน หลังจากที่ยอดโรงงานเหล็กที่ประสบภาวะขาดทุนในเดือนต.ค.มีอยู่ 42 แห่ง ขาดทุนรวม 5.8 พันล้านหยวน
นักวิเคราะห์ระบุถึงสาเหตุของการขาดทุนว่า มาจากราคาโลหะที่บริษัทเหล็กได้ซื้อหามามีราคาสูงขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ซี เซียงตง รองเลขาธิการสมาคมเหล็กฯ กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ราคาสินแร่เหล็ก ถ่านหิน ถ่านหินโค้ก และน้ำมันดิบสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาเหล็กพุ่งขึ้น 70% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยราคาเหล็กดิ่งลงนับตั้งแต่เดือนก.ย. และตกลงมาอยู่ที่ระดับปี 2537 ปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่างราคาเหล็กและธุรกิจเหล็กนั้นได้ถูกบิดเบือนไป
เหล่านักวิเคราะห์ชี้ว่า ภาพตลาดเหล็กเดือนธ.ค.นั้นซบเซา แม้ว่าราคาสินแร่เหล็กในตลาดสปอตจะเพิ่มขึ้น 20% โดยจากเดือนพ.ค.-พ.ย. ราคาสินแร่เหล็กในตลาดสปอตร่วงลง เนื่องมาจากความต้องการที่อ่อนตัว เมื่อเดือนต.ค.ราคาสปอตตกลงต่ำกว่าระดับราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าระยะยาวเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี
หู ไค นักวิเคราะห์สินแร่เหล็กของ Umetal.com กล่าวว่า เมื่อพิจารณาจากสำรองสินแร่เหล็กที่อาจจะร่วงลงเหลือ 64 ล้านตันแล้ว ยอดขาดทุนของโรงเหล็กและเทรดเดอร์น่าจะอยู่ที่ 2.5 - 3.0 หมื่นล้านหยวน และหามีการซื้อสินแร่เหล็กที่ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าระยะยาว 60% และที่เหลือที่ราคาตลาดสปอต