นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมเดินหน้าพิจารณาการออกกฎหมายจัดเก็บภาษีที่ดิน และภาษีมรดก ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปโครงสร้างภาษี แต่ทั้งนี้จะต้องพิจารณารายละเอียดอย่างรอบคอบ โดยขณะนี้นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กำลังศึกษารายละเอียดดังกล่าว
ทั้งนี้ในส่วนของภาษีที่ดินอาจจะไม่ซับซ้อน เพราะมีแนวคิดเดิมอยู่แล้ว โดยจะพิจารณาให้คำนึงถึงความเป็นธรรมมากขึ้น แต่หลักการใหญ่คือจะทำให้ภาษีโรงเรือนกับภาษีบำรุงท้องที่มารวมกันแบบมีเหตุมีผลมากขึ้น เป็นรายได้เป็นกอบเป็นกำมากขึ้นสำหรับท้องถิ่น และต้องยกเว้นให้คนมีความจำเป็นเรื่องที่อยู่อาศัย ขณะที่คนที่มีที่ดินว่างเปล่าจำนวนมากแต่ไม่ใช้ประโยชน์ก็ต้องจัดเก็บภาษีในอัตราก้าวหน้า ส่วนภาษีมรดกจะต้องมีรายละเอียดให้ชัดเจนถึงเงื่อนไขการจัดเก็บและข้อยกเว้น
"ยืนยันว่าจะเดินหน้านโยบายปฏิรูปภาษีต่อไป แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะดำเนินการได้ในระยะเวลาสั้นๆ หลายๆ เรื่องที่หยิบยกขึ้นมาจะมีการดำเนินการ อย่างการปฏิรูปที่ดินก็เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ใช่เรื่องเร่งรัดได้ในช่วงนี้ เพราะมีรายละเอียดที่ต้องให้รอบคอบ" นายกรัฐมนตรี ระบุ
ส่วนที่มีข้อกังวลว่ากฎหมายการเก็บภาษีที่ดิน และภาษีมรดกจะได้รับการต่อต้านอย่างมากจากกลุ่มคนรวยซึ่งเป็นผู้ที่ครอบครองมรดกและมีทรัพย์สินจำนวนมากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องอธิบายให้เกิดความเข้าใจถึงเหตุผลและความจำเป็นในการดำเนินการดังกล่าว ว่ารัฐบาลจำเป็นต้องทำเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่สังคม และเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากที่ดินได้อย่างคุ้มค่า
"เราต้องอธิบาย คิดว่าคนที่ได้รับผลกระทบก็จะเข้าใจว่าทำไมเราต้องทำอย่างนี้ อย่างกรณีภาษีที่ดินมันเริ่มต้นจากที่มีการกระจายที่ดินไปอย่างไม่เท่าเทียมกัน ถ้าเขาได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงก็เข้าใจ แต่ถ้าเป็นทรัพย์สินที่สะสมเอาไว้แล้วทิ้งไว้เฉยๆ ขณะที่คนจำนวนมากมีความต้องการ เช่น คนมีที่ดินมหาศาลทิ้งไว้รกร้างว่างเปล่า ขณะเดียวกันเราต้องมาแก้ปัญหาที่ดินให้กับคนจน ก็คงไม่เป็นธรรมกับสังคม ผมเชื่อจะทำความเข้าใจได้" นายอภิสิทธิ์ กล่าว