แนวโน้มความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของชาวอเมริกันยังซบเซาต่อเนื่องในเดือนม.ค. ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงลงแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่ เนื่องจากประชาชนยังมีความกังวลต่อการจ้างงานและรายได้ที่ลดลง
สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยภาคเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงสู่ระดับ 37.7 จุด จากระดับ 38.6 จุดในเดือนธ.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 39 จุด
ลีนน์ ฟรังโก นักวิเคราะห์จากสำนักงานคอนเฟอเรนซ์บอร์ดกล่าวว่า "ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มต้นปีใหม่ด้วยมุมมองเศรษฐกิจในแง่ลบเหมือนกับในเดือนสุดท้ายของปีที่แล้ว ซึ่งเมื่อมองถึงแนวโน้มในอนาคตแล้วพบว่า ผู้บริโภคยังคงมีมุมมองที่เลวร้ายต่อเศรษฐกิจและรายได้
ขณะเดียวกัน ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในปัจจุบันซึ่งใช้ชี้วัดมุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจในขณะนี้ลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 29.9 จุด จาก 30.2 จุดในเดือนก่อนหน้านี้ ขณะที่ดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจในอีก 6 เดือนหน้าร่วงลงเหลือ 43.0 จุด จากระดับ 44.2 จุด
ทั้งนี้ บรรดานักเศรษฐศาสตร์ต่างจับตาความเชื่อมั่นผู้บริโภคอย่างใกล้ชิด เนื่องจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคมีส่วนสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจถึง 2 ใน 3 แต่จากข้อมูลล่าสุดได้สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคตื่นตกใจต่อสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจและสถานการณ์ในอุตสาหกรรมค้าปลีก ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคต้องรัดเข็มขัดมากที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ในช่วงเทศกาลวันหยุดนั้น มีร้านค้าหลายแห่งรายงานยอดขายที่ซบเซานับตั้งแต่ปี 39 ปี ขณะที่ยอดค้าปลีกในเดือนม.ค.ตกต่ำลงเนื่องจากผู้บริโภคในทุกภาคอุตสาหกรรมยังคงถูกลดการจ้างงานทั้งนี้ อัตราว่างงานในขณะนี้พุ่งสูงสุดในรอบ 16 ปีที่ 7.2% และทำท่าว่าจะพุ่งขึ้นแตะที่ 10% หรือมากกว่าในปีนี้ถึงต้นปีหน้า
ขณะเดียวกัน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงซบเซาต่อเนื่อง โดยดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐร่วงลง 18.2% ในเดือนพ.ย.ซึ่งเป็นสถิติการปรับตัวลดลงรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์