นายอู๋ หย่งติง อดีตที่ปรึกษาธนาคารกลางจีน กล่าวแสดงความคิดเห็นว่าจีนควรขอให้รัฐบาลสหรัฐรับประกันพันธบัตรมูลค่า 6.82 แสนล้านดอลลาร์ที่จีนถือครองอยู่ เพื่อให้มั่นใจว่ามูลค่าพันธบัตรจะไม่ปรับตัวลดลงอันเนื่องมาจากนโยบายที่ไม่แน่นอนของสหรัฐ
"สหรัฐควรทำให้จีนเชื่อมั่นว่ามูลค่าพันธบัตรจะไม่ลดน้อยลง" นายอู๋ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันเศรษฐกิจและการเมืองโลก ประจำสถาบันราชบัณฑิตสังคมศาสตร์ของจีนกล่าว
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภท 10 ปีพุ่งขึ้นกว่า 3% ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลสหรัฐจะนำนโยบายกระตุ้นการปล่อยกู้บรรจุไว้ในมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจมูลค่า 8.38 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่นายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่ายุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนถือมุ่งเน้นปกป้องทุนสำรองเงินตราต่างประเทศมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์
ด้านนายเหอ จี้เจิน นักวิเคราะห์จากธนาคารอะกริคัลเจอร์ แบงค์ ออฟ ไชน่า คาดการณ์ว่า จีนอาจจะเปิดเผยความรู้สึกวิตกกังวลในเรื่องนโยบายการเงินของสหรัฐและสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง ในระหว่างการเดินทางเยือนจีนของนางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ในวันที่ 20 ก.พ.นี้
"ในการพูดคุยกับรมว.คลินตันนั้น จีนจะร้องขอให้สหรัฐพยุงสกุลเงินดอลลาร์ให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ที่จีนถือครองอยู่นั้น มีความปลอดภัย" นายเหอกล่าวก่อนหน้านี้ บิล กรอส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทแปซิฟิก อินเวสท์เมนท์ เมเนจเมนท์ (PIMCO) ซึ่งเป็นกองทุนลงทุนในตราสารหนี้รายใหญ่ที่สุดในโลก เรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เข้าซื้อพันธบัตรเพื่อสกัดกั้นการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร โดยเฉพาะในช่วงที่มีกระแสคาดการณ์แพร่สะพัดว่าจีนซึ่งถือพันธบัตรสหรัฐอยู่ 6.819 แสนล้านดอลลาร์และเป็นลูกค้าพันธบัตรรายใหญ่สุดของสหรัฐนั้น อาจหยุดหรือชะลอ การซื้อพันธบัตรสหรัฐ เนื่องจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน