G7 ตั้งเป้าฟื้นฟูตลาดการเงิน-กระตุ้นเศรษฐกิจโลก ขณะเรียกร้องจีนหนุนเงินหยวนแข็งค่า

ข่าวต่างประเทศ Saturday February 14, 2009 13:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รัฐมนตรีคลังกลุ่ม G7 ซึ่งประกอบไปด้วย อังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ได้เดินทางมาประชุมที่กรุงโรมประเทศอิตาลีในวันนี้ โดยร่างแถลงการณ์ระบุว่า กลุ่ม G7 จะฟื้นฟูความเชื่อมั่นในตลาดการเงินและกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยระบุว่า G7 จะยังคงให้ความสำคัญกับการขยายตัวและเสถียรภาพของเศรษฐกิจตลอดปี 2552 เป็นลำดับแรก อีกทั้งจะช่วยเสริมสร้างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของแต่ละประเทศให้เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ด้วย

"เรายืนยันที่จะร่วมมือกันใช้นโยบายทุกอย่างที่มีอยู่ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจและกระตุ้นการจ้างงาน และเสริมสร้างความแข็งแกร่งของภาคการเงิน" ร่างแถลงการณ์ของ G7 ระบุ ซึ่งรายงานโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก

การประชุม G7 มีขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจในยุโรปหดตัวลงอย่างรุนแรง โดยสำนักงานสถิติเยอรมนีเปิดเผยว่า เศรษฐกิจภายในประเทศหดตัวลง 2.1% ในไตรมาส 4 ปี 2551 นับเป็นสถิติที่ย่ำแย่ที่สุดเมื่อเทียบเป็นรายไตรมาสนับตั้งแต่ปี 2533 และยังเป็นการหดตัวลงต่อเนื่องกัน 3 ไตรมาส ขณะที่เศรษฐกิจฝรั่งเศสไตรมาส 4 หดตัวลง 1.2% ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวลงรุนแรงสุดในรอบ 30 ปี เนื่องจากภาคเอกชนลดการจ้างงานและการลงทุน ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย

นอกจากนี้ กลุ่ม G7 ย้ำว่าต้องการให้จีนผลักดันสกุลเงินหยวนให้แข็งแกร่งขึ้น พร้อมประกาศจับตาความเคลื่อนไหวในตลาดปริวรรตเงินตราอย่างใกล้ชิด และจะดำเนินการอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ท่าทีที่กลุ่ม G7 มีต่อจีนนั้นอ่อนลง เพราะต้องการประสานความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐ ต่อกรณีที่สหรัฐกล่าวหาว่าจีนปั่นค่าเงินหยวนเพื่อหวังผลด้านการส่งออก

ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา มีความเชื่อว่าจีนกำลังปั่นค่าเงินเพื่อผลประโยชน์ด้านการส่งออก ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดความตึงเครียดด้านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและจีน แต่ต่อมาทางการจีนได้ออกมาตอบโต้เรื่องดังกล่าว

ทั้งนี้ รัฐมนตรีกลุ่ม G7 จะยังคงหารือกันต่อไปในวันนี้ ก่อนที่จะออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการในเวลา 2.30 น.ตามเวลากรุงโรม และจะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในเวลาต่อมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ