รมว.พาณิชย์ ยังไม่กล้ายืนยันเป้าหมายการส่งออกในปีนี้จะขยายตัวที่ระดับ 0-3% ตามที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ หลังยอดส่งออกในเดือน ม.ค.หดตัวลดลงอย่างรุนแรงถึง 26.5% แต่ให้กำลังใจผู้ส่งออกอย่าท้อใจเลิกธุรกิจ ด้าน รมช.พาณิชย์ ผุดไอเดียกลยุทธเจาะตลาดใหม่ เล็งตั้งเทรดล็อบบี้ยิสต์เพิ่มปริมาณการค้า พร้อมทุ่มงบอัดแคมเปญ "คันทรีแบรนด์" และ "โปรดักส์แบรนด์" เพิ่มการรับรู้สินค้าและบริการไทยมากขึ้น
"ตอนนี้ยังระบุไม่ว่า เป้าหมายส่งออกขยายตัวที่ 0-3% จะต้องปรับหรือไม่ เพราะเศรษฐกิจโลกยังผันผวน และไม่รู้ว่าจะทำให้การส่งออกไทยลดลงอีกหรือไม่ ต่อไปคงต้องทบทวนตัวเลขเป็นรายไตรมาส ครึ่งปีแรกคงลำบาก แต่ยังคาดหวังตัวเลข 0-3% แต่ก็ต้องดูผลจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และอัดฉีดงบประมาณของแต่ละประเทศก่อน รวมถึงจะหารือกับรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ เพื่อเร่งรัดออกมาตรการช่วยเหลือ โดยเฉพาะด้านภาษี การลดต้นทุน และเพิ่มสภาพคล่อง" นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าว
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า แม้ยอดการส่งออกในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาจะติดลบถึง 26.5% แต่ไม่อยากให้ผู้ส่งออกท้อถอย โดยขอร้องว่าอย่าถึงขั้นทิ้งกิจการ ขอให้พยายามประคองตัวไปก่อน เพราะวิกฤตเศรษฐกิจเกิดไปทั่วโลก และคู่ค้าไทยก็ได้รับผลกระทบ แม้ไทยจะลบแต่ประเทศอื่นก็ติดลบมากกว่า
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ นายกรัฐมนตรีรับทราบปัญหาและพยายามแก้ไขโดยเสริมสภาพคล่องผ่านมาตรการต่างๆ ส่วนกระทรวงพาณิชย์ได้ทยอยเรียกประชุมกลุ่มธุรกิจเพื่อรับฟังปัญหา และร่วมกันกำหนดแนวทางในการปฏิบัติ เพื่อทำให้การส่งออกไม่ติดลบหรือติดลบน้อยที่สุด และในการประชุมทูตพาณิชย์วันที่ 25-26 ก.พ.นี้ ตนเองจะมารับฟังนโยบายและทบทวนตัวเลขการส่งออกใหม่
ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า การส่งออกคงต้องมีการบูรณาการและนำวิธีการใหม่ๆ มาใช้ โดยจะตั้งนักล็อบบี้ทางการค้า(เทรดล็อบบี้ยิสต์) ในแต่ละประเทศ เพื่อล็อบบี้ให้แต่ละประเทศนำเข้าสินค้าและบริการของไทย แก้ปัญหาและอุปสรรคทางการค้าในแต่ละประเทศ โดยเทรดล็อบบี้ยิสต์จะเป็นบุคคลที่เป็นเพื่อนกับประเทศไทย และนำเข้าสินค้าจากไทยอยู่แล้ว พร้อมกับจะเพิ่มที่ปรึกษาทางการกิตติมศักดิ์(เอชทีเอ) ใหม่ด้วย
นอกจากนี้ตนเองกำลังเตรียมจัดทำแผนโปรโมตประเทศไทยและสินค้าไทยผ่านแคมเปญ "คันทรีแบรนด์" และ "โปรดักส์แบรนด์" ซึ่งจะสั่งการให้ทูตพาณิชย์ในแต่ละประเทศจัดทำงบประมาณเพื่อใช้ในการโฆษณา และประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อท้องถิ่นในแต่ละประเทศ เพื่อส่งเสริมการรู้จักประเทศไทย รวมถึงสินค้าและบริการของไทย