ญี่ปุ่นเผยยอดขาดดุลการค้าเดือนม.ค.พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ญี่ปุ่นเปิดเผยยอดขาดดุลการค้าที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนม.ค.ด้วยตัวเลขส่งออกที่ดิ่งลง 46% จากปีก่อนหน้านี้ เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาได้ส่งผลกระทบให้อุปสงค์ต่างประเทศลดลง

กระทรวงคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าในเดือนม.ค.พุ่งขึ้นสู่ระดับ 9.526 แสนล้านเยน (9.92 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และเป็นตัวเลขขาดดุลการค้าที่สูงสุดนับตั้งแต่รัฐบาลเริ่มเก็บข้อมูลในปี 2522 ท่ามกลางภาวะที่ญี่ปุ่นมียอดนำเข้าพุ่งแซงหน้ายอดส่งออกมาต่อเนื่อง 4 เดือน

ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ในภาคธุรกิจส่งออกที่ตกต่ำลงอย่างรุนแรงและยังส่งสัญญาณให้เห็นว่า เอเชียอาจเผชิญความเลวร้ายทางเศรษฐกิจต่อไปในอีกหลายเดือน โดยภาคการส่งออกของเกาหลีใต้ดิ่งลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 33% ในเดือนม.ค. และยอดการส่งออกของไต้หวันถอยร่นลง 43% ส่วนยอดส่งออกสิงคโปร์ร่วงลง 35%

ทั้งนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นในช่วงไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมาหดตัวลงแรงที่สุดในรอบ 35 ปีที่ 12.7% ซึ่งรุนแรงกว่าเศรษฐกิจสหรัฐที่หดตัวลง 3.8%

ในส่วนของยอดส่งออกของญี่ปุ่นไปยังสหรัฐลดลง 53% โดยมียอดส่งออกรถยนต์ทรุดฮวบลง 81% ส่วนยอดเกินดุลการค้าของญี่ปุ่นกับสหรัฐดิ่งลง 75% แตะที่ 1.328 แสนล้านเยน

ก่อนหน้านี้ ยอดส่งออกไปยังประเทศในเอเชียที่แข็งแกร่งได้ช่วยกระตุ้นตัวเลขเกินดุลการค้าของญี่ปุ่นให้สูงขึ้น แต่สถานการณ์ในปัจจุบันกลับไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว เนื่องจากยอดส่งออกในตลาดเอเชียด้วยกันเองลดลง 47% ขณะที่ยอดส่งออกไปยังรัสเซียลดลง 66%

ขณะเดียวกันยอดขาดดุลการค้าของญี่ปุ่นกับจีนพุ่งขึ้น 61% แตะระดับ 5.627 แสนล้านเยน (5.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากยอดส่งออกยังคงลดลงอย่างรุนแรงจนทำให้ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ขณะที่ยอดการนำเข้าโดยรวมลดลง 31.7% แตะระดับ 4.4 ล้านล้านเยน สำนักข่าวเอพีรายงาน