เงินเยนของญี่ปุ่นมีแนวโน้มเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงสู่ระดับ 102 ต่อสหรัฐ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เลวร้ายภายในประเทศซึ่งทำให้นักลงทุนชะลอการถือครองสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินญี่ปุ่น และหันไปซื้อสินทรัพย์จากต่างประเทศแทน
เงินเยนดิ่งลง 8.8% หลังจากแข็งค่าแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2538 ที่ระดับ 87.12 ต่อดอลลาร์ เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนเข้าทำธุรกรรม carry trade กันอย่างคึกคักด้วยการซื้อกู้ยืมเงินเยนไปซื้อสินทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า โดยบาร์เคลย์ส แคปิตอลคาดว่า เงินเยนจะอ่อนค่าลง 4% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า
โทรุ ยูเมโมโตะ และยูกิ ซากาซาอิ นักวิเคราะห์จากบาร์เคลย์ส แคปิตอลกล่าวว่า "สภาพเศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมืองที่เลวร้ายจะยิ่งทำให้สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินญี่ปุ่นได้รับปัจจัยลบมากขึ้น โดยตัวเลขดุลบัญชีของญี่ปุ่นกำลังดำดิ่งลง ขณะที่เม็ดเงินลงทุนทางตรงจากต่างประเทศหดตัว และนักลงทุนญี่ปุ่นยังคงเดินหน้าซื้อสินทรัพย์ในรูปสกุลต่างประเทศกันอย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 09.36 น.ตามเวลาโตเกียว เงินเยนอ่อนค่าลง 0.3% แตะระดับ 98.41 ต่อดอลลาร์ จากระดับ 98.07 ต่อดอลลาร์เมื่อวานนี้
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ค่าเงินเยนร่วงลงรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 13 ปีหลังมีรายงานว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวหนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 2517 ขณะที่ตัวเลขขาดดุลบัญชีการค้าพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์